เอเอฟพี - นโยบายกีดกันผู้อพยพทางเรือแบบสุดขั้วของออสเตรเลียต้องตกอยู่ในความโกลาหลวันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อรัฐบาลปาปัวนิวกินีมีคำสั่งปิดศูนย์กักกันผู้อพยพบนเกาะมานุส (Manus Island) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่คัดกรองผู้ลี้ภัย ทำให้ชะตากรรมของผู้ขอลี้ภัยหลายร้อยชีวิตในค่ายแห่งนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย
คำสั่งปิดศูนย์กักกันบนเกาะมานุสซึ่งรัฐบาลแคนเบอร์ราให้ทุนสนับสนุนมีขึ้น หลังศาลสูงสุดของปาปัวนิวกินีมีคำพิพากษาเมื่อวันอังคาร (26) ว่าการส่งผู้คนไปกักขังเอาไว้ที่นั่นถือว่าผิดกฎหมาย และขัดรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลจิงโจ้ยิ่งเผชิญแรงกดดันหนัก เมื่อผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านคนหนึ่งลุกขึ้นจุดไฟเผาตัวเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐนาอูรู ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่ออสเตรเลียส่งผู้อพยพทางเรือไปทิ้งไว้
มีรายงานด้วยว่า ผู้อพยพอีก 4 คนบนเกาะนาอูรูพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินผงซักฟอกเมื่อวันอังคาร (26)
“เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล รัฐบาลปาปัวนิวกินีจะขอให้ออสเตรเลียพิจารณาทางเลือกอื่นๆ สำหรับผู้ขอลี้ภัยซึ่งยังตกค้างอยู่ที่ศูนย์คัดกรองประจำภูมิภาค” นายกรัฐมนตรีปีเตอร์ โอนีล แห่งปาปัวนิวกีนี ให้สัมภาษณ์ที่ค่ายผู้อพยพบนเกาะมานุส
เบลเดน นามาห์ อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านปาปัวนิวกินี ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดว่าการที่ออสเตรเลียส่งผู้อพยพทางเรือมากักขังไว้บนเกาะมานุส ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในคำพิพากษาความยาว 34 หน้ากระดาษ ศาลสูงสุดปาปัวนิวกินีได้วินิจฉัยว่า การกักกันผู้อพยพไว้ที่เกาะมานุส “ขัดต่อรัฐธรรมนูญปาปัวนิวกินี ซึ่งรับรองเสรีภาพของบุคคล”
อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกระทรวงคนเข้าเมืองออสเตรเลีย ยืนกรานเสียงแข็งว่า ผู้อพยพราว 850 คนในศูนย์กักกันบนเกาะมานุสจะถูกส่งกลับมายังออสเตรเลียไม่ได้เด็ดขาด และแคนเบอร์ราก็จะไม่เปลี่ยนนโยบาย เพราะไม่ส่งเสริมให้ผู้คนเสี่ยงชีวิตล่องเรือมากลางทะเล
“เราก็ต้องการให้คนเหล่านั้นออกไปจากเกาะมานุสและนาอูรู แต่พวกเขาจะเข้ามาออสเตรเลียไม่ได้” ดัตตัน ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง ก่อนที่นายกฯ ปาปัวนิวกินีจะประกาศปิดศูนย์กักกัน
“รัฐบาลออสเตรเลียมีจุดยืนที่ชัดเจน เราพร้อมทำงานร่วมกับปาปัวนิวกินีเพื่อสนับสนุนในสิ่งจำเป็นสำหรับผู้อพยพ และช่วยให้พวกเขาเดินทางกลับไปบ้านเกิด หรือต่อไปยังประเทศที่สาม”
ออสเตรเลียมีข้อตกลงกับกัมพูชาและปาปัวนิวกินีเรื่องการรับผู้ลี้ภัยไปตั้งถิ่นฐาน แม้จะมีผู้อพยพเพียงส่วนน้อยที่ยอมรับข้อเสนอก็ตาม
ศาลสูงสุดปาปัวนิวกินีมีคำสั่งให้รัฐบาลทั้งสองชาติ “ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อยุติและป้องกัน” การส่งตัวผู้ขอลี้ภัยไปกักขังไว้บนเกาะมานุส
ด้านนายกฯ โอนีล ก็ยังไม่ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะปิดศูนย์กักกันเมื่อใด