เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อวันอังคาร (19 เม.ย.) จากกำลังผลิตที่ลดลงฮวบฮาบของคูเวต สืบเนื่องจากการผละงานประท้วงของคนงานภาคปิโตรเลียม ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและดันวอลล์สตรีทปิดบวก ส่วนทองคำพุ่งแรงหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เหตุผละงานประท้วงในคูเวต สมาชิกรายใหญ่ที่สุดลำดับ 4 ของโอเปก เข้าสู่วันที่สามเมื่อวันอังคาร (19 เม.ย.) แม้ทางคูเวต ปิโตรเลียม คอร์ป รัฐวิสาหกิจพลังงานระบุว่าสามารถกู้คืนกำลังผลิตได้บางส่วน จาก 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) เพิ่มเป็น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ก็เทียบเท่ากับแค่ครึ่งหนึ่งของกำลังผลิตปกติเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวช่วยคลายกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดที่ยืดเยื้อมานาน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (19 เม.ย.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ แต่เอสแอนด์พี 500 ขยับใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและรายงานผลประกอบการรายไตรมาสอันแข็งแกร่งของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 49.44 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิด 18,053.60 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 6.46 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,100.80 จุด แนสแดคลดลง 19.69 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,940.33 จุด จากแรงฉุดของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่ดิ่งลงถึง 13 เปอร์เซ็นต์
หลังจากแกว่งตัวสู่แดนลบ ตลาดฟื้นตัวขึ้นและเอสแอนด์พี 500 ปิดห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำเอาไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อนไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ นักลงทุนพึงพอใจต่อรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆ
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดบวกถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์ หลังรายงานยอดขายเติบโตเล็กน้อยในไตรมาสที่ผ่านมา กลายเป็นหุ้นที่ก่ออิทธิพลทางบวกที่สุดต่อเอสแอนด์พี 500
ส่วนหุ้นของเชฟรอนและบริษัททางพลังงานอื่นๆ ต่างก็ขยับขึ้นถ้วนหน้า ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งทะยาน สืบเนื่องจากการประท้วงของคนงานภาคอุตสาหกรรมน้ำมันในคูเวต
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (19 เม.ย.) พุ่งแรง ได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,254.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
