เอเอฟพี - ตามหลังประสบความพ่ายแพ้อย่างขาดลอยในมลรัฐโคโลราโด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเต็งตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์ (11 เม.ย.) ออกมาเล่นงานกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ระบุเป็น “ระบบที่ขี้โกง” และไม่เป็นประชาธิปไตย
เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกหัวอนุรักษนิยมสุดขั้ว ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของนายทรัมป์ กวาดคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมด 34 เสียงในโคโลราโดผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน ณ ที่ประชุมรีพับลิกันของรัฐเมื่อวันเสาร์ (9 เม.ย.) และจากการหยั่งเสียงตามเคาน์ตีต่างๆ
“ผมมันคนนอก ผมเข้ามาสู่ระบบและได้รับคะแนนโหวตจากผู้มีสิทธิออกเสียงหลายล้านคน แต่ระบบมันขี้โกง ไม่ซื่อตรง” มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์รายนี้บอกกับฟ็อกซ์นิวส์
ในโคโลราโดใช้ระบบการลงคะแนนแบบปิดลับ ซึ่งผู้ได้รับโหวตสูงสุดจะได้เสียงของคณะผู้แทนไปทั้งหมด ตรงข้ามกับการหยั่งเสียงแบบไพรมารีและคอคัสทั่วไป ที่ผู้ลงคะแนนจะเลือกผู้สมัครและจำนวนคณะผู้แทนจะได้ตามสัดส่วนของคะแนนที่ได้รับ
“คุณก็รู้ว่าผมได้คะแนนโหวตมากกว่าล้าน แต่ใช่แค่ 2 แต่ได้คะแนนโหวตมากกว่านายครูซมากกว่าล้าน” ทรัมป์ระบุ “ผมได้เสียงคณะผู้แทนแล้วหลายร้อยเสียง เรากำลังต่อสู้อย่างไม่ลดละ แต่คุณมีการหยั่งเสียงในโคโลราโด ซึ่งพวกเขาได้คณะผู้แทนไปทั้งหมด มันไม่ใช่ระบบ มันไม่ใช่การออกเสียงของผู้มีสิทธิชาวโคโลราโด” เขาคร่ำครวญ
นอกจากนี้แล้วเขายังกล่าวหาตัวแทนของนายครูซมุ่งหน้าไปยังเซาท์แคโลไลนา รัฐที่นายทรัมป์คว้าชัยชนะอย่างง่ายดาย ในความพยายามดึงเสียงคณะผู้แทนออกมาทีละคน และเปลี่ยนความคิดให้หันมาเลือกนายครูซ ในกรณีที่อาจมีการประชุมแบบที่เรียกว่า contested convention ในเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ การประชุมแบบ contested convention จะเป็นการเปิดโอกาสให้แกนนำพรรคได้เจรจาต่อรอง และอาจมีการเทคะแนนหนุนบุคคลอื่นที่พรรคเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมมากกว่า
นายทรัมป์คร่ำครวญอย่างขมขื่นว่าบุุคคลระดับสูงของรีพับลิกันกำลังหาทางขัดขวางเขาไม่ให้ได้เป็นตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และเห็นพ้องที่จะให้การสนับสนุนนายครูซ
เวลานี้นายทรัมป์มีคณะตัวแทนผู้ลงคะแนนที่จะทำหน้าที่เลือกผู้เป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ณ ที่ประชุมใหญ่พรรค ในวันที่ 18-21 กรกฎาคม จำนวน 746 คน นำหน้านายครูซที่มีอยู่ 538 คน และจอห์น เคสิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ มี 145 คน
แต่ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของนายครูซ ประกอบกับชัยชนะในโคโลราโดและวิสคอนซินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นของนายทรัมป์ในการได้ถึง 1,237 คน สำหรับการคว้าชัยชนะในศึกแย่งชิงตัวแทนพรรค
เวลานี้ทั้งสองผู้สมัครกำลังพุ่งเป้าไปยังศึกหยั่งเสียงแบบไพรมารีของนิวยอร์กในวันที่ 19 เมษายน มลรัฐบ้านเกิดของนายทรัมป์ และจากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ พบว่าเขามีคะแนนนำหน้าพอสมควร