xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีใต้ส่งมอบ “กระดูกทหารจีน” ที่ร่วมสู้รบในสงครามเกาหลีกลับสู่บ้านเกิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทหารกองเกียรติยศของจีนแสดงความเคารพต่อหน้าโลงบรรจุกระดูกนายทหารที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลี ระหว่างพิธีส่งมอบที่สนามบินนานาชาติอินชอน เพื่อนำกระดูกเหล่านี้กลับไปประกอบพิธีฝังในบ้านเกิด
เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งมอบกระดูกของทหารจีนหลายสิบนายที่ถูกสังหารระหว่างร่วมรบในสงครามเกาหลีเมื่อปี 1950-53 กลับคืนสู่แผ่นดินมังกร เพื่อนำไปประกอบพิธีฝังตามประเพณี วันนี้ (31 มี.ค.)

โลงศพบรรจุกระดูกทหารจีน 36 นายซึ่งกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ขุดพบระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ย. ปีที่แล้ว ถูกส่งขึ้นเครื่องบินจากสนามบินนานาชาติอินชอนไปยังเมืองเสิ่นหยาง ซึ่งเป็นที่ตั้งสุสานทหารจีนที่เสียชีวิตในสงคราม

เมื่อวันจันทร์ (28) ทางการเกาหลีใต้ได้มีพิธีบรรจุชิ้นส่วนกระดูกและหัวกะโหลกของทหารจีนลงในโลงศพที่โกดังเก็บศพชั่วคราวในเมืองพาจู (Paju) ใกล้ๆ พรมแดนเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ ได้ประกาศระหว่างเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2013 ว่า ทางการโสมขาวจะส่งมอบกระดูกของทหารจีนกลับคืนสู่บ้านเกิด เพื่อแสดงถึงไมตรีจิตระหว่างทั้ง 2 ชาติ

เกาหลีใต้ได้ส่งกระดูกทหารจีนกลับไปยังแดนมังกรแล้วทั้งสิ้น 505 ชุด โดยทยอยส่งไปทุกปีก่อนจะถึงเทศกาลเชงเม้ง ซึ่งชาวจีนจะเดินทางไปเคารพและปัดกวาดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ

จีนได้ส่งทหารไปช่วยสนับสนุนกองกำลังของเกาหลีเหนือในสงครามเกาหลี ซึ่งกินระยะเวลาตั้งแต่ปี 1950-53 หลังจากที่ทหารนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ รุกไล่ทัพโสมแดงขึ้นไปทางตอนเหนือของคาบสมุทร

ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่นอนยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญตะวันตกประเมินคร่าวๆ ว่าน่าจะมีทหารจีนล้มตายในสงครามเกาหลีราว 400,000 นาย ขณะที่แหล่งข่าวในจีนระบุตัวเลขไว้เพียง 180,000 นาย

ร่างของทหารต่างชาติเหล่านี้เคยถูกฝังเอาไว้ตามสุสานย่อมๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาหลีใต้ จนกระทั่งปี 1996 รัฐบาลโซลจึงได้สร้างสุสานพิเศษขึ้นที่เมืองพาจู ซึ่งอยู่ห่างพรมแดนเกาหลีเหนือลงมาทางใต้ไม่ไกลนัก เพื่อนำกระดูกของทหารจีนและโสมแดงที่ยังหลงเหลืออยู่บนแผ่นดินเกาหลีใต้มาฝังรวมกัน

รายงานระบุว่า มีศพทหารเกาหลีเหนือกว่า 700 นายถูกฝังไว้ที่สุสานเมืองพาจู แต่ที่ผ่านมาทางการโสมแดงยังทำเพิกเฉยต่อข้อเสนอของเกาหลีใต้ที่จะส่งกระดูกเหล่านี้กลับไปเปียงยาง แม้จะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยหลายครั้งแล้วก็ตาม



กำลังโหลดความคิดเห็น