เอเจนซีส์ - ศาลไซปรัสได้สั่งให้มีการควบคุมตัวเป็นเวลา 8 วัน แก่ชายชาวอียิปต์ผู้จี้เครื่องบินของอียิปต์แอร์ ด้วยเข็มขัดระเบิดปลอม แล้วสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางไปลงที่ไซปรัส
ตำรวจระบุว่า เซอิฟ เอลดิน มุสตาฟา เผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะถูกตั้งข้อหาจี้เครื่องบิน ลักพาตัวผู้คนโดยมีเป้าหมายในการพาไปยังสถานที่อื่น กระทำการโดยไม่ยั้งคิดและเป็นภัยคุกคาม รวมถึงมีความผิดฐานละเมิดกฏหมายต่อต้านก่อการร้าย
ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่ได้ถูกพูดถึงในศาล ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินลาร์นากาที่เกิดเหตุเมื่อวันอังคารเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งไมล์ แต่ในขณะที่เขาออกจากศาลโดยรถตำรวจ เขาได้ชูสองนิ้วเป็นรูปตัววีให้แก่นักข่าว
มุสตาฟา ผู้มีอดีตเมียเป็นชาวไซปรัส จะไม่ต้องเผชิญกับการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ จนกว่าจะเข้ารับฟังการพิจารณาในภายหลัง ตอนนั้นเขาจะเข้าสู่กระบวนการยอมรับข้อกล่าวหา
ทางการไซปรัสระบุถึงมุสตาฟาว่าเป็นบุคคลที่มีสภาพจิตใจไม่มั่นคง พร้อมทั้งบอกด้วยว่าคดีนี้ไม่เกี่ยวกับก่อการร้าย
เขาถูกกล่าวหาว่าบังคับให้เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินลาร์นากา ในไซปรัส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยทำการข่มขู่ว่าจะจุดเข็มขัดระเบิด ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นของปลอม
ทางการระบุว่า แรงจูงใจของเขานั้นมาจากเรื่องส่วนตัวและเกี่ยวกับอดีตภรรยาชาวไซปรัสของเขา ซึ่งมีรายงานว่าทั้งคู่มีลูกด้วยกัน
การจี้เครื่องบินครั้งนี้ยื้อกันอยู่นาน 6 ชั่วโมงที่สนามบิน ส่งผลให้ทางเข้าหลักสู่ไซปรัสของบรรดานักท่องเที่ยวต้องถูกปิด
ผู้โดยสารส่วนใหญ่จากจำนวน 55 ราย บนเครื่องบิน ซึ่งเดิมทีจะต้องเดินทางจากอเล็กซานเดรียไปไคโร ได้ถูกปล่อยตัวอย่างรวดเร็วหลังจากเครื่องบินลงจอด
แต่ก็มีบางรายที่เพิ่งหนีได้ตอนช่วงการยื้อกันใกล้ยุติ รวมถึงชายสวมเครื่องแบบรายหนึ่งที่ปีนออกจากหน้าต่างห้องคนขับแล้วกระโดดลงมาที่พื้นสนามบิน
