เอพี – เมื่อวานนี้ (18 มี.ค) ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เดินทางไปร่วมงานฉลองครบ 2 ปีที่ไครเมียกลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ด้วยการตรวจการก่อสร้างสะพานสายประวัติศาสตร์ ความยาว 19 กม. ข้ามช่องแคบเคิร์ช (Kerch) ที่จะเชื่อมไครเมียและด้านใต้ของรัสเซียแผ่นดินใหญ่เข้าด้วยกัน และจะทำให้ชาวไครเมียสามารถกลับมาชีวิตปกติอีกครั้ง หลังจากในปีที่ผ่านมายูเครนประกาศห้ามไม่ให้รถบรรทุกสินค้าวิ่งข้ามพรมแดนจากเคียฟเข้าไป
รัสเซียผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียไม่นานหลังจากที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้หนุนหลังกลุ่มกบฏในยูเครนตะวันออกให้ก่อหวอดต่อต้านรัฐบาลยูเครน และนำมาสู่การที่เครมลินถูกคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากชาติตะวันตก รวมไปถึงสหรัฐฯ ที่มีสถานการณ์ราคาน้ำมันตกต่ำซ้ำเติม และส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลตกอย่างต่อเนื่อง
เอพีรายงานว่า การผนวกไครเมียในปี 2014 ของรัสเซียเกิดขึ้นหลังจากที่มีการจัดลงคะแนนออกเสียงประชามติครั้งสำคัญของประชาชนในพื้นที่ แต่ทว่าการผนวกดินแดนครั้งนี้กลับไม่ได้รับการยินยอมจากสหรัฐฯ ชาติพันธมิตรสหภาพยุโรป และแม้กระทั่งเบลารุส ชาติพันธมิตรของรัสเซีย
ซึ่งเมื่อวานนี้ (18 มี.ค) ทั่วประเทศรัสเซีย มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 2 ปี การผนวกดินแดนสำเร็จอย่างคึกคัก
และในวันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้เดินทางไปเยือนไครเมีย เพื่อตรวจเยี่ยมการก่อสร้างสะพานไครเมียความยาว 19 กม. ข้ามช่องแคบเคิร์ช (Kerch) ที่จะเชื่อมระหว่างไครเมียและด้านใต้ของรัสเซียแผ่นดินใหญ่เข้าด้วยกัน
เอพีรายงานว่า นับตั้งแต่มีการกั้นพรมแดนระหว่างไครเมียและยูเครน ในปีที่ผ่านมาเคียฟได้ประกาศห้ามรถบรรทุกสินค้าทุกประเภทจากยูเครนวิ่งข้ามพรมแดนเข้าไปในไครเมีย และทำให้สินค้าที่จะส่งมายังไครเมียต้องส่งทางอากาศ และทางเรือข้ามช่องแคบมาเท่านั้น
ทั้งนี้ ปูตินได้แถลงกับคนงานก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ ว่า “การก่อสร้างครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจครั้งประวัติศาสตร์”
เอพีรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัทที่ได้สัญญาการก่อสร้างสะพานไครเมียมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลรัสเซีย เป็นของ อาร์คาดี โรเทนเบิร์ก ( Arkady Rotenberg) โอลิกาชรัสเซีย และยังเป็นเพื่อนสนิท และคู่เล่นกีฬายูโดสายดำของประธานาธิบดี ปูติน