เอเจนซีส์ - เฟดคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยไม่เกินสองครั้งก่อนสิ้นปี หรือครึ่งหนึ่งของที่เคยคาดไว้เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ระบุเศรษฐกิจอเมริกาเติบโตปานกลาง และการจ้างงานมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ไม่วายสำทับว่าอเมริกายังคงเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
แถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ออกมาเมื่อวันพุธ (17) ระบุว่า มีดัชนีหลายตัวซึ่งรวมถึงการจ้างงานอย่างเข้มแข็ง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่งมากขึ้น และอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
แถลงการณ์ยังประกาศคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ที่ 0.25-0.50%
“อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกและพัฒนาการด้านการเงินยังคงมีความเสี่ยง อันจะทำให้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปตลอดระยะเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้” แถลงการณ์ระบุ
ในระหว่างแถลงข่าว เจเน็ต เยลเลน ประธานผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า ยังต้องรอดูกันไปว่าอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารของอเมริกาจะขยับขึ้นอย่างยั่งยืนหรือไม่
ทั้งนี้ บรรดาผู้วางนโยบายเฟดคาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอลงและเงินเฟ้อจะลดลงในปีนี้ และลดการประมาณการอัตราการกู้ยืมเป้าหมายในระยะยาวไว้ที่ 3.30% จาก 3.50% บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวเชื่องช้า
แนวโน้มดอกเบี้ยที่ประกาศครั้งนี้เปลี่ยนแปลงจากที่เฟดเคยคาดไว้ตอนที่ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษเมื่อเดือนธันวาคมว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ กล่าวคือ ผู้วางนโยบายส่วนใหญ่ในขณะนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยเมื่อสิ้นปีจะอยู่ที่ 0.9% บ่งชี้ว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยเกิน 2 ครั้ง
แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยล่าสุดมีขึ้นขณะที่เฟดพยายามควบคุมความผันผวนในตลาดโลกเมื่อเร็วๆ นี้ และชะลอแผนการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน อย่างไรก็ดี แนวทางของเฟดยังถือเป็นทิศทางตรงข้ามกับธนาคารประเทศชั้นนำอื่นๆ เช่น ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ที่ประกาศใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืดและการเติบโตชะลอตัว
เฟดใช้ท่าทีระมัดระวังขึ้นระหว่างการประชุมรอบที่แล้วในเดือนมกราคม ขณะที่ตลาดการเงินกำลังถูกเทขายอย่างหนัก ราคาน้ำมันทรุด และอัตราเงินเฟ้อถูกคาดหมายว่า จะลดลง สำหรับครั้งนี้แถลงการณ์ของเฟดยังคงไม่ระบุโดยตรงว่ามองสมดุลความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจอเมริกาอย่างไร เช่นเดียวกับแถลงการณ์ฉบับที่แล้ว
ผู้วางนโยบายเฟดปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.2% จาก 2.4% ที่คาดไว้ในเดือนธันวาคม ส่วนตลาดแรงงานมีแนวโน้มปรับตัวต่อไป โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงอยู่ที่ 4.7% ภายในสิ้นปีนี้ และลดลงต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อปีปัจจุบันคาดว่าจะอยู่ที่ 1.2% จาก 1.6% แต่เชื่อว่าจะดีดกลับและขยับเข้าใกล้เป้าหมายระยะกลางที่ 2% ในปีหน้า