เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรงในวันพุธ (9 มี.ค.) หลังพบสต๊อกเบนซินสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก ส่งเสริมแนวโน้มทางอุปสงค์ในตลาดโลก ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทปิดบวก แต่ในทางกลับกันก็ฉุดให้ทองคำขยับลงพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 38.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบปีนี้
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานปิโตรเลียมในวันพุธ (9 มี.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มีนาคม แต่เหล่านักวิเคราะห์ระบุว่ามันเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดหมายไว้และน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นอย่างมาก
นอกจากนี้แล้ว ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสต๊อกเบนซินในสัปดาห์เดียวกันที่ลดลงถึง 4.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดหมายถึง 3 เท่า ส่วนคลังน้ำมันกลั่นสำรอง อันประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าจากที่คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราว 900,000 บาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ฟื้นตัวภายในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (9 มี.ค.) ปิดในแดนบวก หลังราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานช่วยดันเหล่าหุ้นที่เชื่อมโยงกับภาคปิโตรเลียมปรับขึ้นถ้วนหน้า
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 36.26 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,000.36 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 10.00 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,989.26 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 25.55 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,674.38 จุด
โคโนโคฟิลลิปส์ ปิดบวก 1.1 เปอร์เซ็นต์ และนาบอร์ส รีซอร์ซ บริษัทขุดเจาะน้ำมัน ปิดบวก 2.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเชฟรอน สมาชิกดาวโจนส์ ทะยานขึ้น 4.6 เปอร์เซ็นต์ หลังราคาน้ำมันสัญญาสหรัฐฯ พุ่งกลับไปแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐฯ กัดเซาะอุปสงค์สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ฉุดราคาทองคำในวันพุธ (9 มี.ค.) ขยับลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,257.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์