เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันศุกร์ (4 มี.ค.) จากข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ปัจจัยนี้สนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและดันวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำทะยานต่อเนื่อง อยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 35.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันศุกร์ (4 มี.ค.) ว่าบริษัทต่างๆ และหน่วยงานรัฐบาลมีการจ้างงาน 242,000 อัตราในเดือนที่แล้ว เหนือกว่าที่คาดหมายไว้อย่างมาก และยังได้ปรับขึ้นตัวเลขของ 2 เดือนก่อนด้วย ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานก็ทรงตัวอยู่ที่ 4.9 เปอร์เซ็นต์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2008 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของภาวะถดถอยรุนแรง
ข้อมูลใหม่นี้ย้ำให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก ท่ามกลางความกังวลว่าอเมริกากำลังเข้าสู่ภาวะหยุดชะงักในช่วงต้นปี แม้เหล่านักวิเคราะห์ยังคาดหมายว่าการเติบโตจะเบาบางลงในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (4 มี.ค.) ด้วยดาวโจนส์กลับขึ้นไปเหนือ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน จากข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดหมาย และราคาน้ำมันช่วยดันหุ้นกลุ่มปิโตรเลียมดีดขึ้นถ้วนหน้า
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 62.87 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,006.77 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.59 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,999.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.60 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,717.02 จุด
นอกเหนือจากข้อมูลภาคแรงงานที่สดใสแล้ว ราคาน้ำมันที่ช่วยดันหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปิดบวก โดย โคโนโคฟิลลิปส์ และมาราธอน ออยล์ ขยับขึ้น 6.6 เปอร์เซ็นต์ และ 10.3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ (4 มี.ค.) พุ่งทะยานต่อเนื่อง แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังข้อมูลการจ้างงานให้มุมมองตลาดแรงงานที่สดใส แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนความคาดหมายที่มีต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 12.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,270.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์