เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงแรงในวันศุกร์ (19 ก.พ.) ตลาดเคลือบแคลงใจมากขึ้นต่อการหารือจำกัดกำลังผลิตของเหล่าชาติผู้ส่งออกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ปัจจัยทางพลังงานฉุดให้วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ขณะที่ทองคำขยับขึ้นพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 33.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในทางบวกในช่วงกลางสัปดาห์ ตามหลังการเจรจากันระหว่างเหล่าชาติผู้ผลิตรายใหญ่ในความเป็นไปได้ที่จะก่อข้อตกลงจำกัดการผลิตเพื่อตอบสนองต่อราคาที่ตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม มุมมองอย่างกระตือรือร้นของนักลงทุนในขั้นต้นได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสัย ตามหลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย มีเงื่อนไขว่าจะจำกัดการผลิตก็ต่อเมื่อผู้ผลิตอื่นๆ ดำเนินการอย่างเดียวกัน ส่วนอิหร่าน แม้จะแสดงความสนับสนุนอย่างกว้างขวาง แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าจะปฏิบัติตามข้อเสนอดังกล่าว
ดัชนีดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดลบในวันศุกร์ (19 ก.พ.) จากแรงฉุดของกลุ่มปิโตรเลียม หลังราคาน้ำมันขยับลง สวนทางกับแนคแดคที่ขยับขึ้น ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี
ดาวโจนส์ ลดลง 21.44 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิด 16,391.99 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.05 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,917.78 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 16.89 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,504.43 จุด
หุ้นกลุ่มปิโตรเลียมปรับลดกันถ้วยหน้า โดยตัวที่ดิ่งลงหนักที่สุด รวมถึงไปอาปาเช ปิโตรเลียม และคอนติเนนทัล รีสอร์ซ ที่ต่างปิดลบ 4.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อย่าง อะเมซอน ปิดบวก 1.9 เปอร์เซ็นต์ เฟซบุ๊ก ปิดบวก 1.1 เปอร์เซ็นต์และไพรซ์ไลน์ ปิดบวก 2.5 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาทองคำในวันศุกร์ (19 ก.พ.) ปิดบวกพอสมควร นักลงทุนคาดหมายว่าจะมีธนาคารกลางของชาติต่างๆดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์เพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 4.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,230.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์