เอเอฟพี – ศาลญี่ปุ่นออกคำพิพากษาในวันนี้ (9 มี.ค) สั่งให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของบริษัท คันไซ อิเล็กทริก (Kansai Electric) ในโรงที่ 3 และโรงที่ 4 จำนวน 2 โรง ต้องถูกปิดตัวลงชั่วคราว จากการเกรงปัญหาความปลอดภัย หลังจากประชาชนชาวญี่ปุ่นในพื้นที่ได้ยื่นฟ้องตามกฎหมายเป็นจำนวนมาก โดยเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 2 โรง ตั้งอยู่ในโรงงานไฟฟ้าทาคาฮามะ นิวเคลียร์ (Takahama nuclear plant) ห่างออกไปทางกรุงโตเกียวทางตะวันตกราว 350 กม.
ศาลแขวงโอซุ (Otsu) ออกคำสั่งในวันพุธ (9 มี.ค) ดับฝันของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ที่จะนำพลังงานนิวเคลียร์เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้ากลับมา หลังจากคำพิพากษาสั่งให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของบริษัท คันไซ อิเล็กทริก (Kansai Electric) ในโรงที่ 3 และโรงที่ 4 จำนวน 2 โรง ต้องถูกปิดตัวลงชั่วคราว โดยให้เหตุผลจากปัญหาด้านความปลอดภัย หลังจากประชาชนในพื้นที่จำนวนมากได้ยื่นหนังสือคำร้องทางกฎหมาย
ทั้งนี้ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 2 โรง ตั้งอยู่ในโรงงานไฟฟ้าทาคาฮามะ นิวเคลียร์ (Takahama nuclear plant) ห่างออกไปทางกรุงโตเกียวทางตะวันตกราว 350 กม.
ด้านบริษัท คันไซ อิเล็กทริก ซึ่งเป็นเจ้าของได้ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจต่อคำพิพากษา และไม่อาจยอมรับได้ และประกาศว่า จะดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายข้อยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อไป
เอเอฟพีรายงานว่า คำพิพากษาที่ออกมาล่าสุดนี้ ถือเป็นคำสั่งแรกที่ออกมาให้มีการปิดการทำงานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หลังจากที่ถูกเปิดอีกครั้งภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เคร่งครัดของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ออกมาหลังญี่ปุ่นต้องประสบกับการระเบิดของโรงไฟฟ้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟูกูชิมะในปี 2011
เอเอฟพีรายงานต่อว่า โรงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ถูกสั่งปิดทั้ง 2 โรงนั้น พบว่า ในเดือนที่ผ่านมา ได้มีการปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โรงที่ 4 ไป เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยด้านเทคนิก ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน หลังจากได้มีการเริ่มต้นเปิดให้ทำงานได้อีกครั้งไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
ในขณะที่โรงไฟฟ้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โรงที่ 3 ของคันไซ อิเล็กทริกในขณะนี้ยังคงเปิดทำงานตามปกติ