เอเอฟพี - ไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) ว่าจะไม่ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะผู้สมัครอิสระอย่างแน่นอน ด้วยเกรงว่าจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ 2 ตัวเก็งของพรรครีพับลิกันอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ ส.ว.เท็ด ครูซ ลอยลำเข้าสู่ทำเนียบขาวง่ายขึ้น
เป็นที่คาดหมายกันมานานแล้วว่า บลูมเบิร์ก วัย 74 ปี อาจตัดสินใจเดินลงสู่สังเวียนเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ หลังจากที่เขาเคยแสดงความท้อแท้ใจที่มหาเศรษฐีปากไม่มีหูรูดอย่าง ทรัมป์ สร้างกระแสโดดเด่นกว่าใครๆ
บลูมเบิร์ก ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บสให้เป็นบุคคลร่ำรวยอันดับ 8 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินราว 41,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วิจารณ์ทรัมป์ว่าเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีที่ “สร้างความแตกแยก และปลุกปั่นอย่างเลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมจำได้”
เขาเคยเขียนคอลัมน์เผยแพร่ทางสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า “อับราฮัม ลินคอล์น บิดาผู้ก่อตั้งพรรครีพับลิกัน ได้กระตุ้นสามัญสำนึกฝ่ายดีของเรา แต่ทรัมป์กลับกระตุ้นแรงจูงใจด้านมืดที่สุดของเรา”
บลูมเบิร์กยังติเตียนทรัมป์ที่เรียกร้องให้สหรัฐฯ ห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าประเทศ ทั้งยังขู่จะขับไล่ชาวเม็กซิกันหลายล้านคนออกจากอเมริกา และประกาศสงครามการค้ากับจีนและญี่ปุ่น โดยระบุว่าแนวคิดเช่นนี้ “ผิดอย่างร้ายแรง”
“ท้ายที่สุดมันจะทำให้ฝ่ายศัตรูของเรายิ่งฮึกเหิม เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติพันธมิตร และทำให้ทหารอเมริกันทั้งชายและหญิงต้องเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก”
ด้าน ครูซ ซึ่งกวาดจำนวนผู้แทนออกเสียงในสายรีพับลิกันได้เป็นอันดับ 2 รองจาก ทรัมป์ “ก็ไม่ได้สุดโต่งน้อยไปกว่ากัน” บลูมเบิร์กระบุ
มหาเศรษฐีใจบุญซึ่งเรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนให้มีความเข้มงวด ยอมรับว่า มีคนบางกลุ่มซึ่งไม่พอใจผู้สมัครคนใดเลยในเวลานี้ อยากให้ตนลงแข่งขัน “เพื่อประเทศชาติ”
“แต่เมื่อดูจากข้อมูลทั้งหมดแล้ว ถึงผมสมัครไปก็ไม่ชนะ” เขากล่าว
“มีโอกาสสูงทีเดียวที่การลงแข่งขันของผมจะช่วยให้ โดนัลด์ ทรัมป์ หรือวุฒิสมาชิก เท็ด ครูซ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โดยสามัญสำนึกแล้ว ผมไม่ควรจะเสี่ยงเช่นนี้”
บลูมเบิร์กยังไม่ประกาศว่าจะสนับสนุน ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเคยเป็น ส.ว.รัฐนิวยอร์กสมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี หรือว่าจะเลือกหนุนผู้สมัครคนอื่นๆ แต่ยืนยันว่าตนจะไม่นิ่งเฉยท่ามกลางความสุดโต่งของแต่ละพรรคอย่างแน่นอน