เอเจนซีส์ - ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาผ่านการมีเพศสัมพันธ์รายแรกของยุโรป โดยมีหญิงรายหนึ่งได้รับเชื้อจากคู่นอนของเธอที่เพิ่งกลับมาจากบราซิล
มาริโซล ตูแรน รัฐมนตรีกิจการสังคม สาธารณสุข และสิทธิสตรี แถลงเมื่อวันเสาร์ (26 ก.พ.) ว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวซึ่งตรวจพบการติดเชื้อตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนนั้น ไม่ได้ตั้งครรภ์ ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนต่ำ รวมทั้งกำลังฟื้นตัวอย่างน่าพอใจ
ทั้งนี้ เชื่อว่าทารกที่เกิดจากมารดาที่ติดไวรัสซิกาขณะตั้งครรภ์ มีความเสี่ยงคลอดออกมาโดยมีศีรษะเล็กผิดปกติและสมองพัฒนาไม่สมบูรณ์
ตูแรน ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางเยือนเฟรนช์ เกียนาว่า พบผู้ป่วยรายนี้ในปารีส ขณะนี้ผู้หญิงคนดังกล่าวแข็งแรงดีและไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล
องค์การอนามัยโลกระบุว่า พบหลักฐานการติดเชื้อไวรัสซิกาในบางระดับใน 46 ประเทศ และ 130 ประเทศเป็นแหล่งอาศัยของยุงลายบ้านที่เป็นพาหะของไวรัสนี้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ไวรัสนี้อาจระบาดอย่างกว้างขวางและรวดเร็วในที่สุด
เดนมาร์ก เยอรมนีและอังกฤษ พบนักท่องเที่ยวของตนติดไวรัสชนิดนี้ หลังคนเหล่านั้นเดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด
อนึ่ง ไวรัสซิกาไม่ถือเป็นโรคที่ต้องแจ้งต่อทางการในสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเท่ากับว่า ประเทศต่างๆ ไม่ต้องรายงานกรณีพบผู้ติดเชื้อกับศูนย์เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป ดังนั้น ความถูกต้องในการรายงานจึงมีความแปรปรวน
กรณีผู้ติดเชื้อในปารีสนั้นเป็นรายแรกที่มีการรายงานในยุโรป ที่โอกาสในการระบาดของโรคนี้มีต่ำเนื่องจากในช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ยุงมีการแพร่พันธุ์ต่ำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนนี้ ซูซานนา เจแค็บ ผู้อำนวยการฮูภาคพื้นยุโรปเตือนว่า ประเทศในยุโรปควรเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่โรคนี้จะระบาดในช่วงที่อากาศอุ่นขึ้นคือในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน โดยเฉพาะประเทศที่มียุงลาย
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเผยว่า ไม่พบยุงลายชนิดดังกล่าวในประเทศ ดังนั้น แม้พบผู้ที่ได้รับเชื้อซิกาจากต่างประเทศและกลับมาป่วยภายในอังกฤษ ก็ยังถือว่าความเสี่ยงด้านสาธารณสุขต่อประชาชนโดยรวมอยู่ในขั้นเล็กน้อยเท่านั้น
นับจากปี 2014 มีนักเดินทางอังกฤษที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสซิการวม 8 ราย โดยบุคคลเหล่านี้เดินทางกลับจากประเทศต่างๆ เช่น บาร์บาโดส โคลอมเบีย เวเนซุเอลา เกียนา และเม็กซิโก และส่วนใหญ่ได้รับเชื้อจากการถูกยุงกัด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ติดเชื้อผ่านเพศสัมพันธ์
บราซิลนั้นเป็นประเทศที่ไวรัสชนิดนี้ระบาดรุนแรงที่สุด โดยพบผู้ติดเชื้อ 1.5 ล้านคน ปัจจุบันยังไม่มียารักษาหรือวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดนี้ และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ สำหรับอาการปกติของโรคนี้คือเป็นไข้ ปวดข้อต่อ ตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบ ปวดศีรษะ และบางครั้งมีผื่นคัน