xs
xsm
sm
md
lg

ข้อตกลงจ่ายเหยื่อโรงงานซัมซุง กระพือข้อพิพาทแรงงานให้ยิ่งฉาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: จอห์น เพาเวอร์

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Deal for sickened Samsung workers exposes discord among survivors
By John Power
19/02/2016

ในเดือนที่แล้วบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์บรรลุข้อตกลงกับเหล่าผู้แทนพนักงานซึ่งป่วยด้วยโรคลูคีเมีย และโรคอื่นๆ ในระหว่างทำงานในโรงงานหลายแห่งของบริษัท ในการนี้จอมยักษ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ระบายสีให้เกิดเป็นภาพของการยุติความขัดแย้งอันขมขื่นเนิ่นนาน 9 ปี กระนั้นก็ตาม ความเป็นจริงที่ผ่านมากลับกลายเป็นว่า ได้เกิดความยุ่งเหยิงทวีตัวมากขึ้นมาโดยตลอด

โซล - ในเดือนที่แล้วบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์บรรลุข้อตกลงกับเหล่าผู้แทนพนักงานซึ่งป่วยด้วยโรคลูคีเมีย และโรคอื่นๆ ในระหว่างทำงานในโรงงานหลายแห่งของบริษัท จอมยักษ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ระบายสีให้เกิดเป็นภาพของการยุติความขัดแย้งอันขมขื่นเนิ่นนาน 9 ปี

กระนั้นก็ตาม ความเป็นจริงที่ผ่านมากลับกลายเป็นว่า ได้เกิดความยุ่งเหยิงทวีตัวมากขึ้นมาโดยตลอด ทั้งนี้ แม้บริษัทจะได้รับการสนับสนุนอันหนักแน่นจากบางส่วนของพนักงานที่ล้มป่วยตลอดจนครอบครัวของพนักงานที่เสียชีวิตไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่สิ่งที่ปรากฏชัดเจนมากขึ้นในท่ามกลางความพยายามแก้ปัญหาของซัมซุง คือการแตกแยกระหว่างองค์กรดั้งเดิมที่ต่อสู้เพื่อพนักงาน กับกลุ่มพนักงานที่แยกตัวออกไปต่อสู้ในแบบที่ประนีประนอม

ในเดือนมกราคม ซัมซุงยอมปฏิบัติตามองค์กรผู้ตรวจการอิสระ ในอันที่จะประเมินสภาพความปลอดภัยในโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ตลอดจนโรงงานอื่นๆ ของตน ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นไปตามข้อเรียกร้องว่าบริษัทจะต้องดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความป่วยไข้เพิ่มมากขึ้น โดยเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้จัดทำระบบเงินชดเชยแก่พนักงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้บริษัทปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งปวงมาตลอดหลายปี

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มบาโนลิม อันเป็นกลุ่มตัวแทนท้องถิ่นที่ช่วยต่อสู้ให้กับครอบครัวของพนักงานซัมซุงที่ล้มป่วยหรือเสียชีวิตไปแล้ว การดำเนินมาตรการทั้งปวงของซัมซุงถูกมองว่ายังไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ผู้นำกลุ่มคือ นายฮวาง ซัง-กี สูญเสียบุตรสาววัย 23 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคลูคีเมียในปี 2007 หลังจากที่เข้าทำงานในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุง โดยศาลมีคำตัดสินในปี 2011 ว่าการป่วยไข้รุนแรงที่เกิดขึ้นกับธิดาของฮวาง ซัง-กี น่าจะเป็นผลจากที่เธอได้รับกัมมันตภาพรังสี ตลอดจนสารเคมีอันตรายต่างๆ รวมถึงเบนซิน ในการนี้ เมื่อช่วงก่อนที่จะมีคำพิพากษาของศาล หน่วยงานของรัฐในด้านการจ่ายค่าชดเชยแรงงานเคยปฏิเสธคำร้องเรียนของเธอที่ยื่นเรื่องไว้ว่าเธอเจ็บป่วยโดยเป็นผลจากการปฏิบัติงาน

กลุ่มบาโนลิมประนามซัมซุงอย่างรุนแรงที่ซัมซุงปฏิเสธความรับผิดชอบทางกฎหมายต่อความเจ็บป่วยและการเสียชีวิตในหมู่พนักงาน ทั้งนี้ รายที่ยอมรับเงินค่าชดเชยจากบริษัท จะต้องลงนามสละสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องบริษัทในอนาคต นอกจากนั้น บาโนลิมกล่าวโทษว่าซัมซุงข่มขู่ และจ่ายเงินให้เหยื่อเพื่อจะปกปิดไม่ให้เป็นที่ประจักษ์ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น แท้จริงแล้วรุนแรงเพียงใด

“สิ่งที่บาโนลิมเรียกร้องคือ มาตรฐานการจ่ายเงินชดเชยที่เป็นธรรมและสม่ำเสมอ โดยดูแลชดใช้แก่เหยื่อทุกรายในมาตรฐานเดียวกันอย่างยุติธรรม” ฮวางกล่าวไว้เมื่อวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2016 ณ เวทีหารืออันประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของซัมซุงและตัวแทนของเหยื่อทั้งกลุ่มบาโนลิม และกลุ่มที่ยอมรับค่าชดเชยตามเงื่อนไขของบริษัท

ความเกี่ยวโยงของโรคภัยยังไม่กระจ่าง

ความเกี่ยวโยงระหว่างสภาพการทำงานในโรงานของซัมซุง กับการล้มป่วยด้วยโรคร้ายต่างๆ รวมถึง โรคมะเร็ง ยังนับว่าคลุมเครือ ในปี 2011 ผลการศึกษาที่จัดทำโดยงบจ้างศึกษาของซัมซุง และดำเนินการโดยบริษัทที่ปรึกษาจากสหรัฐอเมริกาคือ บรรษัทเอ็นวีรอน อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่าไม่พบหลักฐานที่แสดงความเสี่ยง ในทางตรงข้าม การศึกษาโดยหน่วยงานเกาหลีซึ่งนำออกเผยแพร่ในปีที่แล้ว พบว่ามีความเป็นไปได้ที่สตรีที่ทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และแผงวงจรของเกาหลีจะเกิดการแท้งบุตรและมีปัญหาการมีประจำเดือน ปัจจุบันนี้ มีน้อยครั้งอย่างยิ่งที่คำร้องเรื่องความป่วยไข้จากการทำงานซึ่งยื่นเรื่องโดยพนักงานของซัมซุง ผ่านการพิจารณาของหน่วยงานภาครัฐซึ่งมีหน้าที่ที่จะรับเรื่องไปดำเนินการ

กลุ่มของคุณฮวางให้ข้อมูลว่า มีเหยื่อของซัมซุงที่ออกมาต่อสู้เพื่อสิทธิและความยุติธรรมเพียง 223 ราย และน่าจะยังมีอีกมหาศาลที่ยังหลบอยู่ในเงามืด

แต่คุณฮวางปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าใครบ้างที่เป็นกลุ่มที่หลบในเงามืด โดยคุณฮวางอ้างว่าหากให้ข้อมูลไป จะทำให้บุคคลเหล่านี้สุ่มเสี่ยงที่จะถูกซัมซุงข่มขู่คุกคาม

ในการพบปะหารือเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซัมซุงปฏิเสธตัวเลขจำนวนเหยื่อที่กลุ่มบาโนลิมนำมา กล่าวอ้าง พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องข่มขู่คุกคาม

“เราไม่อาจทำสิ่งอื่นใดได้นอกจากจะต้องถามว่ารายนามเหล่านี้มีตัวตนอยู่จริงล่ะหรือ” บั๊ก ซู-ฮยุน ประธานคณะเจรจาตัวแทนซัมซุง กล่าวอย่างนั้น “ในอันที่จะจัดทำค่าชดเชย คุณต้องทราบว่าใครป่วยด้วยโรคอะไร และในการจะเสนอมาตรการป้องกัน คุณต้องมีข้อมูลเพื่อจะเข้าใจได้ว่าผู้ใดที่ล้มป่วย และล้มป่วยด้วยโรคอะไรในสถานที่แห่งใดบ้าง”

คุณบั๊กกล่าวด้วยว่าถ้าซัมซุงจะเคยทำการรังแกพนักงานที่ล้มป่วย เรื่องเช่นนั้นต้องเป็นการ “ลงโทษภายใต้กฎหมาย”

ด้านกลุ่มพนักงานที่แยกตัวออกจากกลุ่มบาโนลิมไปต่อสู้ในแบบที่ประนีประนอม ภายใต้ชื่อว่า คณะกรรมการค่าชดเชยเพื่อครอบครัวของพนักงานในกรณีของโรคลูคีเมีย มีท่าทีว่าจะไม่อยากจะต่อสู้ศึกยืดเยื้อกับยักษ์อิเล็กทรอนิกส์โลก โดยในวันอังคารที่แล้ว กลุ่มนี้แสดงการตอบรับด้วยดีกับท่าทีของซัมซุงในเรื่องการจ่ายค่าชดเชย

ซัมซุงได้มอบเงินแก่ผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย โดยไม่มีการเปิดเผยตัวเลขของเงินชดเชย กระนั้นก็ตาม ซัมซุงเดินหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างความป่วยไข้ของพนักงานกับสภาพในโรงงานของตน

“มีหนึ่งร้อยกับสิบรายที่ได้รับเงินชดเชยซึ่งพิจารณาด้วยเกณฑ์และมาตรฐานอันชัดเจน แต่ถ้ามีคนหยิบมือหนึ่งจะมาเปลี่ยนกฎหรือแก้ไขมาตรฐานการจ่ายเงินชดเชยเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทางคณะกรรมการครอบครัวจะไม่ยอมนิ่งเฉยหรือดูดาย” ซง ชาง-โฮ หนึ่งในผู้แทนของคณะกรรมการฯ กล่าวไว้อย่างนั้น

หรือว่าการยอมรอมชอมจะดีกว่า

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มผู้แยกตัวจากบาโนลิมจะแสดงท่าทีแข็งกร้าวเดือดปุดเข้าใส่แนวทางการต่อสู้แบบสุดลิ่มของฝ่ายบาโนลิม

“ผมเคยถามบาโนลิมว่าพวกเขามีแผนแบบไหนในเรื่องค่าชดเชย บาโนลิมตอบว่าพวกเขาไม่มีแผนอะไรแน่นอนเป็นรูปธรรม หากแต่แค่บอกว่า จะเดินหน้าสู้กับซัมซุง” คิม เอิน-คยุง กรรมการอีกรายหนึ่งของคณะกรรมการครอบครัวฯ กล่าว

“แต่ในเวลาเดียวกัน ผู้ที่ล้มป่วยมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่พวกนั้นเอาแต่ต่อสู้ การต่อสู้ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียว เราต้องการทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งนี้”

จอห์น เพาเวอร์เป็นนักข่าวที่รายงานในประเด็นของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นับจากปี 2010 ผลงานของเขาปรากฏในสื่อต่างๆ มากมาย อาทิ The Daily Mail, The Christian Science Monitor, Mashable, NK News, Asian Geographic, The Diplomat, The Korea Herald และ Narratively


กำลังโหลดความคิดเห็น