เอเอฟพี - ประเทศหมู่เกาะมาร์แชลที่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิก ประกาศจะยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ ในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ในการกล่าวหา อังกฤษ ปากีสถาน และ อินเดีย ไม่สามารถทำตามข้อตกลงการหยุดสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในความครอบครอง หลังจากประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่มีประชากร 55,000 คนตกเป็นเหยื่อทดลองระเบิดไฮโดรเจนของวอชิงตันตั้งแต่ปี 1946
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันนี้ (30 ม.ค.) ว่า ประเทศหมู่เกาะมาร์แชลที่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกจะพยายามเกลี้ยกล่อมศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การสหประชาชาติ ในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ในคดีกล่าวหา 3 ชาติมหาอำนาจด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่สามารถทำตามข้อตกลงการหยุดสะสมอาวุธนิวเคลียร์
โดยในการแถลงของช่วงเย็นวันศุกร์ (29) ศาลระหว่างประเทศ ICJ ได้ประกาศถึงการพิจารณาไต่สวน 3 คดี ในช่วงระหว่างวันที่ 7 - 16 มีนาคม ที่จะถึงนี้
เอเอฟพีรายงานว่า ในส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับอินเดียและปากีสถาน ทางศาลจะพิจารณาว่า ศาลระหว่างประเทศ ICJ ที่ตั้งอยู่ในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ มีอำนาจที่จะเปิดการไต่สวนในคดีนี้หรือไม่ตามข้อพิจารณามีเขตอํานาจตามกฎหมายภายในการที่จะพิจารณาพิพากษาคดี (Competent jurisdiction)
และในส่วนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับอังกฤษ จะเริ่มต้นไปที่ทางอังกฤษคัดค้านอำนาจพิจารณาของศาลฯเบื้องต้น (Preliminary Objection) จากการโต้แย้งที่มาจากรัฐบาลอังกฤษ และการตัดสินจะถูกระบุในภายหลังเพื่อประกาศว่าคดีเหล่านั้นทางศาลระหว่างจะรับไว้หรือไม่
ทั้งนี้ ในปี 2014 ประเทศหมู่เกาะมาร์แชลที่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีประชากรเพียง 55,000 คน ได้กล่าวหา 9 ประเทศที่ไม่สามารถทำตามข้อตกลงสนธิสัญญาการหยุดสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และการไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในการครอบครอง
เอเอฟพีรายงานว่า ประเทศทั้ง 9 ที่ตกอยู่ในข้อกล่าวหาของหมู่เกาะมาร์แชล คือ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย อิสราเอล เกาหลีเหนือ ปากีสถาน รัสเซีย และ สหรัฐฯ
ทั้งนี้ รัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชลอ้างว่า จากการที่ประเทศเหล่านั้นไม่ทำตามข้อตกลงสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ 1968 (Nuclear Non - Proliferation Treaty: NPT) จึงทำให้ประเทศทั้ง 9 ละเมิดสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งเอเอฟพีชี้ว่า รัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชลได้กล่าวหาการละเมิดข้อตกลง NPT รวมไปถึงอินเดีย และ ปากีสถาน สองประเทศที่ “ไม่ได้ลงนาม” ในข้อตกลงนี้ด้วยก็ตาม
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่หมู่เกาะมาร์แชลต้องยื่นฟ้องต่อประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในความครอบครองเป็นเพราะ “ตระหนักถึงมหันตภัยที่จะเกิดมาจากภัยอาวุธนิวเคลียร์” อ้างจากแถลงการณ์ของรัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชล
ทั้งนี้ ในคำร้องที่ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศของรัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชล พบว่า ได้มีการอ้างถึงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของวอชิงตันบนหมู่เกาะมาร์แชลในช่วงปี 1946 - 1958
แต่อย่างไรก็ตาม ศาลระหว่างประเทศรับคำร้องพิจารณาเพียงแค่อังกฤษ อินเดีย และปากีสถาน เท่านั้น เพราะประเทศเหล่านี้ยอมรับอำนาจศาลระหว่างประเทศ ICJ
และมีรายงานว่า ในเดือนมีนาคม 2014 หมู่เกาะมาร์แชลได้ประกาศครบรอบ 60 ปี ของการทดลองระเบิดไฮโดรเจที่เกาะบิกีนีอะทอลล์ (Bikini Atoll) ในปฏิบัติการครอสโรดส์ของวอชิงตัน และส่งผลทำให้เกาะทั้งเกาะหายไป นอกจากนี้ยังเกิดการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสีแพร่กระจายไปทั่ว
โดยพบว่า ระเบิดไฮโดรเจนน้ำหนัก 15 เมกะตัน ถูกหย่อนเพื่อทดสอบในวันที่ 1 มีนาคม 1954 ซึ่งปฏิบัติการครอสโรดส์นี้เกิดขึ้นในช่วงยุคสงครามเย็นที่สหรัฐฯต้องแข่งสะสมอาวุธนิวเคลียร์กับอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งระเบิดที่ทดสอบมีอานุภาพมากกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่หย่อนลงในฮิโรชิมา ญี่ปุ่นถึง 1,000 เท่า
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ประชาชนบนเกาะบิกีนีอะทอลล์ต้องถูกอพยพไปอาศัยนอกเกาะนับตั้งแต่ทางวอชิงตันเริ่มการทดสอบครั้งแรกสุดในปี 1946
และเมื่อวอชิงตันประกาศว่าเกาะแห่งนี้ปลอดภัยพอสำหรับมนุษย์ในการอยู่อาศัย มีประชาชนบางส่วนได้ตัดสินใจย้ายกลับไปอาศัยบนเกาะแห่งนี้ในช่วงปี 70
แต่ทว่าประชาชนที่ย้ายกลับไปต้องตัดสินใจย้ายออกจากบ้านบนเกาะบิกีนีอะทอลล์อีกครั้งในปี 1978 หลังพบว่าได้รับประทานพืชผักที่ปลูกในบนเกาะนั้นมีปริมาณกัมมันตภาพรังสีระดับเข้มข้น
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมต่อว่า หน่วยงาน The Marshall Islands Nuclear Claims Tribunal (NCT) ที่ตั้งขึ้นในปี 1988 โดยรัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชล เป็นตัวแทนของภาครัฐและเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ถูกตัดสินได้รับการจ่ายเงินชดเชยกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในความเสียหายบุคคล และความเสียหายต่อภูมิประเทศจากการทดสอบ
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า การจ่ายค่าชดเชยต่อ NCT ได้หยุดลงที่ 150 ล้านดอลลาร์เมื่อพบว่ากองทุนเงินชดเชยของวอชิงตันได้หมดลง
นอกจากนี้ มีรายงานว่า 8 ใน 9 ประเทศได้ยอมรับอย่างเป็นทางการของการมีอาวุธนิวเคลียร์ในความครอบครอง แต่ทว่าอิสราเอลเป็นประเทศเดียวใน 9 ประเทศ ที่ไม่ยอมรับว่า “มีอาวุธนิวเคลียร์” ในการครอบครอง แต่ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่า อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่จริง