รอยเตอร์ - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เริ่มการเจรจากับรัฐบาลตูนิเซียในวันพฤหัสบดี (18 ก.พ.) เกี่ยวกับแผนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,700 ล้านดอลลาร์ตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า ต่อดินแดนในภูมิภาคแอฟริกาเหนือแห่งนี้
เศรษฐกิจของตูนิเซียได้รับความบอบช้ำอย่างหนักและยังคงไม่ฟื้นตัวจากปรากฏการณ์อาหรับสปริงที่นำไปสู่การปฏิวัติโค่นล้มระบอบการปกครองของประธานาบดี ซิเน เอล-อบิดีน เบน อาลี เมื่อปี 2011 ยังไม่รวมถึงเหตุโจมตีโดยฝีมือของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ที่ได้สร้างผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า อามิเน มาติ หัวหน้าคณะเจรจาของไอเอ็มเอฟในตูนิเซีย ได้เดินทางเข้าพบกับเชดลี อยารี ผู้ว่าการธนาคารกลางของตูนิเซียแล้วในวันพฤหัสบดี (18) เพื่อหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่จากไอเอ็มเอฟ ซึ่งมีเงื่อนไขว่ารัฐบาลตูนิเซียต้องดำเนินมาตรการปฏิรูปทางเศรษฐกิจอย่างเข้มข้นทั้งในปี 2016 นี้ รวมถึงอีก 3 ปีข้างหน้า
ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงตูนิสเผยว่า อามิเน มาติ หัวหน้าคณะเจรจาของไอเอ็มเอฟจะเดินทางเข้าพบหารือกับที่ปรึกษาระดับสูงของนายกรัฐมนตรีตูนิเซียที่รับผิดชอบดูแลแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศด้วยเช่นกัน
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ตูนิเซียเองก็กำลังจะได้รับเงินกู้ยืมก้อนใหม่จำนวน 500 ล้านยูโรจากทางสหภาพยุโรป (อียู) ด้วยเช่นกัน ขณะที่อดีตประเทศเมืองแม่ของตูนิเซียในยุคอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสก็ประกาศจะให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่อตูนิเซียเป็นวงเงิน 1,000 ล้านยูโรตลอด 5 ปีนี้
ก่อนหน้านี้ ทางไอเอ็มเอฟเคยให้ความช่วยเหลือรอบแรกแก่ตูนิเซียเมื่อปี 2013-2015 คิดเป็นวงเงินราว 1,740 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการต่ออายุของความช่วยเหลือรอบดังกล่าวนี้ออกไปอีก 7 เดือนเมื่อปีที่แล้ว