เอเจนซีส์ – เกิดอุบัติเหตุเครนก่อสร้างขนาดยักษ์พังถล่มลงมาที่ย่านตริเบกาในมหานครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 3 คน ซึ่ง 2 คนอาการสาหัส
บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก แถลงว่า เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 8.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่พนักงานควบคุมเครนกำลังพยายามบังคับเครนให้ต่ำลงมาเพื่อความปลอดภัย ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายและหิมะตกหนัก แต่ปรากฏว่าเครนได้ล้มครืนลงมายังถนนเวิร์ธสตรีทในย่านโลเวอร์แมนฮัตตัน ส่งผลให้อาคาร 4 หลังได้รับความเสียหาย และมีประชาชนถูกเศษชิ้นส่วนที่ฟุ้งกระจายบาดเจ็บไป 3 คน
เดอ บลาซิโอ เผยว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เครนสูง 170 เมตรตัวนี้ถล่มลงมา แต่พนักงานคนหนึ่ง “ได้เข้าไปตรวจสอบสภาพของเครนแล้วเมื่อวานนี้”
เพียงไม่กี่นาทีก่อนเกิดเหตุ พนักงานก่อสร้างได้เข้าไปเตือนคนเดินเท้าและรถยนต์ให้หลีกเลี่ยงออกจากพื้นที่
“ขอบคุณพระเจ้าที่มันไม่เลวร้ายไปกว่านี้” เดอ บลาซิโอ กล่าว พร้อมเสริมว่า มาตรการป้องกันล่วงหน้านี้เองที่ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตมากมาย ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นย่านสำนักงานและมักมีรถยนต์พลุกพล่านในช่วงเวลาเร่งด่วน
เครนตัวนี้ถูกติดตั้งไว้บนรถตีนตะขาบ ซึ่งรถก็ได้พลิกคว่ำไปด้วยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น
เครนตัวนี้เป็นทรัพย์สินของบริษัท เบย์ เครน และถูกนำมาใช้ปฏิบัติงานโดยบริษัท กาลัสโซ ทรักกิง แอนด์ ริกกิง เพื่อเปลี่ยนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบบเครื่องปรับอากาศบนดาดฟ้าของอาคารเวสเทิร์นยูเนียน ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1930
เดอ บลาซิโอ ระบุว่า ทางการนครนิวยอร์กได้มีคำสั่งให้นำเครนเคลื่อนที่ 376 ตัว และเครนชนิดไม่เคลื่อนที่อีก 43 ตัวมาติดตั้งในตำแหน่งที่ปลอดภัย
นครนิวยอร์กเคยเผชิญอุบัติเหตุเครนถล่มครั้งรุนแรงล่าสุดเมื่อปี 2008