เอพี/เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเต็งอันดับ 1 จากพรรครีพับลิกัน ประกาศในวันอังคาร (26 ม.ค.)ไม่ขอร่วมดีเบตรอบต่อไปที่ถูกจัดโดยฟ็อกซ์ นิวส์ ทีวีเน็ตเวิร์กสหรัฐฯ หลังพบคู่ปรับผู้ประกาศสาวฝีปากกล้า เมแกน เคลลี เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินรายการ ในขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ประกาศ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา จะมีกำหนดพบหารือเป็นการส่วนตัวกับตัวเต็งอันดับ 2 พรรคเดโมแครต ส.ว.สายอิสระรัฐเวอร์มอนต์ เบอร์นี แซนเดอร์ส ในเช้าวันนี้ (27 ม.ค.) หลังในวันจันทร์ (25 ม.ค.) โอบามาเปิดใจให้สัมภาษณ์ ไม่รู้จักมากพอ
เอพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า ในการดีเบตพรรครีพับลิกันที่จะมีขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งรอบไพรมารีในรัฐไอโอวาในสัปดาห์หน้า ตัวเต็งอันดับ 1 โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศบอยคอตไม่เข้าร่วม
โดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ได้รายงานว่า ทรัมป์ ได้กล่าวว่า “ผมอยากรู้ว่าฟ็อกซ์นิวส์จะทำเงินได้มากเท่าใด…หากไม่มีผมเข้าร่วม”
ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาประกาศแสดงความไม่พอใจต่อสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ทีวีเน็ตเวิร์ก ซึ่งจะเป็นผู้จัดดีเบต ว่า เล่นตุกติก และรวมไปถึงกำหนดให้เมแกน เคลลี พิธีกรสาวฝีปากกล้าคู่ปรับทรัมป์ตั้งแต่การดีเบตรอบก่อนหน้านั้นให้เป็นหนึ่งในพิธีกร เอพี ชี้
เพราะในการตั้งคำถามของเคลลีในครั้งนั้น พิธีกรสาวตั้งคำถามประเด็นความเท่าเทียมทางเพศกับทรัมป์ โดยบีบีซีได้รายงานในต้นเดือนสิงหาคม 2015 ว่า ในช่วงการตอบคำถาม เคลลีได้ตั้งคำถามทรัมป์ ว่า “คุณเรียกผู้หญิงที่คุณไม่ชอบขี้หน้าว่า “หมูอ้วน” “หมา” “ไอ้คนขี้เกียจ” และรวมไปถึงชื่อของสัตว์ที่น่ารังเกียจต่าง ๆ” แต่ทว่าทรัมป์กลับตอบปัดโดยชี้ว่า เขาเพียงแค่กล่าวถึง โรซี โอ ดอนเนล (Rosie O'Donnell) นักแสดงหญิงเท่านั้น และยังกล่าวต่อไปว่า เราเสียเวลามากเกินไปกับการพยายามแก้ไขคำพูดทางการเมือง ซึ่งในภายหลังทำให้ทรัมป์เสียคะแนนไปมาก
โดยในวันอังคาร (26 ม.ค.)โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า “ผมพูดว่า บาย บาย โอเค ไหม” ในการประกาศตอบปฏิเสธการเข้าร่วม และยังกล่าวถึงเคลลีด้วยว่า “เป็นนักข่าวอันดับ 3” ที่เขาไม่ต้องการให้ราคา หลังจากทั้งสองเกิดการปะทะคารมกลางดีเบตรอบแรกที่จัดโดยฟ็อกซ์นิวสในปีที่ผ่านมา
และทำให้ เมแกน เคลลี ได้ออกมาตอบโต้ผ่านรายการของเธอทางฟ็อกซ์นิวส์ ว่า ทรัมป์คุ้นเคยแต่ทุกสิ่งตามแนวทางของตนเอง แต่กลับไม่สามารถควบคุมสื่อได้ และเคลลียังได้กล่าวต่อว่า ทั้งสถานีและซีอีโอของฟ็อกซ์นิวส์ โรเจอร์ ไอล์ส (Roger Ailes) ได้ออกมายืนยันก่อนหน้านี้อย่างหนักแน่นว่า จะไม่มีการเปลี่ยนตัวพิธีกรตั้งคำถามในการดีเบตรอบก่อนไพรมารีโหวตอย่างแน่นอน
เคลลียังได้ย้ำกับผู้ชมและทรัมป์ผ่านรายการของเธอว่า “ดิฉันจะปรากฏตัวและตั้งคำถามในการดีเบตครั้งนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณทรัมป์จะเข้าร่วมหรือไม่ก็ตาม”
และเอพียังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ตัวเต็งอันดับ 1 ในฝั่งพรรครีพับลิกันแก้เกมด้วยการมีแผนที่จะจัดงานของตัวเองในรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวของการฟ็อกซ์นิวสในการจัดดีเบต โดยทรัมป์อ้างเหตุผลเพื่อระดมทุนช่วยเหลือทหารอเมริกันผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บ
และเขายังท้าทายว่า การไม่ปรากฏตัวของเขาในการดีเบตพรรครีพับลิกันที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) จะเป็นจุดสนใจมากกว่าเนื้อหาการดีเบตเสียอีก
ซึ่งทางนิวยอร์กไทม์ส ชี้ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์ที่ถือตัวว่าได้รับความนิยมสูงสุดในพรรค และยังเคยประกาศกับสาธารณะ ว่า ในการดีเบตทุกรอบ ผลโพลที่ออกมาพบว่า เขาชนะทุกครั้งนั้น จะใช้วิธีบลัฟกับสถานีโทรทัศน์ผู้จัดการดีเบต โดยประกาศจะไม่เข้าร่วม
ซึ่งในการดีเบตในปีที่ผ่านมาโดยมีสถานีข่าวผ่านดาวเทียม CNN เป็นผู้จัด แต่ปรากฏว่า ตัวเต็งอันดับ 1 จากพรรครีพับลิกัน ขู่ที่จะไม่ยอมเข้าร่วมการดีเบตรอบนั้น โดยบังคับเรียกร้องให้ทาง CNN บริจาคเงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ให้กับทหารสหรัฐฯผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ตัวทรัมป์จะเข้าร่วม
แต่ปรากฏว่า สื่อ CNN ตอบปฏิเสธอย่างเป็นทางการชัดเจน และกล่าวหาว่า ทรัมป์เล่นแง่ตุกติก แต่ท้ายที่สุด โดนัลด์ ทรัมป์ จำต้องปรากฏตัวเข้าร่วมการดีเบตในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังการประกาศบอยคอตดีเบตของทรัมป์ ทำให้ตัวเต็งอันดับ 2 ในฝั่งพรรครีพับลิกัน ส.ว.รัฐเทกซัส เท็ด ครูซ ที่มีคะแนนไล่หลังตามมาติด ๆ ตามผลโพลรัฐไอโอวา ได้โอกาสประกาศท้าทรัมป์ดีเบตตัวต่อตัว หรือ “mano a mano” ผ่านการหาเสียงในคืนวันอังคาร (26 ม.ค.) ว่า ต้องการดีเบตแบบ 1 ต่อ 1 กับทรัมป์เมื่อใดก็ได้ก่อนวันลงคะแนนรอบคอคัสในรัฐไอโอวา ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้
พร้อมกันนี้ ครูซยังได้ถากถางทรัมป์ผ่านเวทีหาเสียงว่า “กลัว เมแกน เคลลี จนหัวหด” พร้อมกับชี้ว่าผู้สมัครที่หนีการดีเบตเหมือนกับผู้สมัครงานใหม่ที่ปฎิเสธไม่ยอมเข้าสัมภาษณ์งาน
“รู้ไหม หากมีใครซักคนที่ทำเช่นนั้น โดยปฏิเสธไม่ยอมมาสัมภาษณ์ และรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น “คุณถูกไล่ออก!!!” ครูซกล่าว โดยล้อเลียนคำพูดของทรัมป์ที่มักพูดติดปากในรายการทีวีเรียลิตี The Apprentice ที่ทรัมป์เคยเข้าร่วม
และเอพียังรายงานต่อถึงในฝั่งเดโมแครต ว่า ส.ว.สายอิสระรัฐเวอร์มอนต์ เบอร์นี แซนเดอร์ส ตัวเต็งอันดับ 2 จากพรรคเดโมแครต มีกำหนดจะเข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวในเช้าวันนี้ (27 ม.ค.) โดย จอช เอิร์นเนสต์ (Josh Earnest) โฆษกประจำทำเนียบขาว ยืนยันว่า เป็นการพบปะหารือส่วนตัว และไม่มีวาระทางการอยู่ในการพบปะครั้งนี้
ซึ่งสื่อ MSNBC สหรัฐฯ ชี้ว่า เป็นการพบปะครั้งที่ 2 ในรอบ 7 ปี ระหว่างโอบามาและแซนเดอรส์
ทั้งนี้ การพบปะครั้งนี้เกิดขึ้น 2 วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อวิเคราะห์การเมือง เดอะ โพลิติโค ในวันจันทร์ (25 ม.ค.) ที่ออกมาให้กำลังใจคู่แข่งตัวเต็งอันดับ 1 ฮิลลารี คลินตัน อย่างท่วมท้น ในขณะที่ได้กังขาถึงนโยบายที่เสนอโดยแซนเดอร์ส ว่า “ไม่น่าจะเป็นไปได้” โดยชี้ว่าสื่ออาจต้องทำงานหนักในการขุดค้นเพื่อตรวจสอบนโยบายของแซนเดอร์สหากเขาชนะในรัฐไอโอวา หรือรัฐนิวแฮมป์เชียร์ พร้อมทั้งกล่าวว่า ไม่รู้จัก ส.ว. จากรัฐเวอร์มอนต์คนนี้มากนัก พร้อมยังสำทับว่า คลินตันเสียเปรียบ เพราะเป็นที่รู้จักในแวดวงสาธารณะมานานเมื่อเทียบกับแซนเดอร์สที่เป็นคนหน้าใหม่ และย่อมทำให้ได้รับความนิยมมากกว่า
ทั้งนี้ NBC NEWS วิเคราะห์ก่อนหน้านี้ ว่า ไม่น่าแปลกใจนักเมื่อพบว่า ประธานาธิบดีโอบามา เลือกที่จะยืนเคียงข้างคลินตันมากกว่าแซนเดอร์ส เพราะโอบามาเป็นหนึ่งใน Democratic Establishment และยิ่งในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของผู้นำสหรัฐฯ ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่า โอบามาต้องการให้คลินตันเป็นตัวแทนสานต่อความสำเร็จในสิ่งที่เขาได้ทำไว้ มากกว่าที่จะเลือกคนนอกพรรคเช่น เบอร์นี แซนเดอร์ส
โดยล่าสุดคืนวานนี้ (26 ม.ค.) ในการหาเสียงที่รัฐมินเนโซตา แซนเดอร์ส สามารถทำให้คนไม่ต่ำกว่า 14,000 คน เข้ามาฟังการปราศรัยได้สำเร็จ