เอเอฟพี - บราซิลเตรียมกระจายกำลังทหารมากกว่า 200,000 นายไปเคาะประตูบ้านเรือนประชาชนแจกใบปลิวให้ความรู้แบบหลังต่อหลัง ในความพยายามต่อสู้กับไวรัสซิกา (ZIKA) ที่มียุงเป็นพาหะ ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้ทารกมีภาวะพิการตั้งแต่แรกคลอด ขณะที่การแพร่ระบาดของมันกำลังก่อความกังวลด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ในภูมิภาคละตินอเมริกา
โอโกลโบ สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของมาร์เซโล คาสโตร รัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิลเผยว่า ทหารจะกระจายกำลังไปยังบ้านเรือนแต่ละหลังทั่วประเทศ เพื่อแจกใบปลิวแนะนำถึงวิธีการหลบหลีกการแพร่ระบาดของซิกา ส่งสัญญาณถึงการยกระดับความพยายามครั้งใหญ่ในการต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้
นอกจากนี้แล้ว คาสโตรยังบอกว่ารัฐบาลที่กำลังถูกกดดันอย่างหนักให้จัดการกับวิกฤตนี้ จะแจกสารทาป้องกันยุงแก่หญิงตั้งครรภ์อย่างน้อย 400,000 คนที่อยู่ในระบบสวัสดิการสังคมด้วย
ไวรัสซิกาก่อให้เกิดความพิการแต่กำเนิดอย่างร้ายแรง ในนั้นรวมถึงโรคศีรษะเล็ก โดยทารกที่คลอดในมารดาที่ติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์จะมีศีรษะเล็กผิดปกติ
การแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นทั่วละตินอเมริกา โดยเฉพาะบราซิล กระตุ้นให้สหรัฐฯ และรัฐบาลชาติอื่นๆ เตือนผู้หญิงมีครรภ์ต่อการเดินทางเยือนภูมิภาคแถบนี้ ในขณะที่บราซิลกำลังเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม
ซิกาไม่เหมือนกับความกังวลทางสาธารณสุขระหว่างประเทศอื่นๆ เนื่องจากมันไม่ติดต่อจากคนสู่คน และส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัด จะหายป่วยภายในเวลาราว 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม มันเป็นภัยคุกคามอย่างเจาะจงต่อหญิงตั้งท้องและเด็กในครรภ์ และด้วยถูกมองว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดตามประเทศต่างๆ ในเขตร้อน จึงทำให้มันกลายเป็นวิกฤตเล็กๆ
บราซิลพบเด็กแรกคลอดที่มีภาวะพิการแต่กำเนิดที่เชื่อว่ามีผลมาจากการติดเชื้อไวรัสซิกาแล้วอย่างน้อย 3,893 ราย นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้พุ่งขึ้นผิดปกติทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในเดือนตุลาคม หลังจากก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อเฉลี่ยแล้วแค่ปีละราวๆ 160 คนเท่านั้น
องค์การอนามัยโลกพบว่าเชื้อไวรัสซิกานั้นนอกจากสามารถถ่ายทอดผ่านทางเลือด และยังสามารถตรวจพบได้จากอสุจิของเพศชายอีกด้วย ขณะที่ในกรณีแม่และเด็กนั้นสามารถส่งผ่านไวรัสได้ทั้งในระหว่างช่วงการตั้งครรภ์และในช่วงการให้นมบุตร
