เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลียกล่าวเตือนคนในชาติวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า “ยังไม่ถึงเวลา” ที่จะทำประชามติเพื่อเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ และออสเตรเลียยังมีปัญหาด้านอื่นๆ ที่สำคัญกว่ารอการแก้ไข
สัปดาห์นี้บรรดาผู้ว่าการรัฐและดินแดนเกือบทุกแห่งของแดนจิงโจ้ได้ลงนามในหนังสือเรียกร้องให้มีการแต่งตั้ง “ประมุขรัฐ” ของออสเตรเลียมาแทนที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
“ยังมีปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ ที่ออสเตรเลียและรัฐบาลกำลังเผชิญอยู่ และมันสำคัญยิ่งกว่ากระแสเรียกร้องหรือความปรารถนาที่จะเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ” เทิร์นบูลล์ กล่าว
“เรื่องนี้จะต้องรอเวลาที่เหมาะสมจริงๆ”
นายกฯ แดนจิงโจ้ ระบุว่า ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับออสเตรเลียในการเปลี่ยนไปใช้ระบอบสาธารณรัฐก็คือ หลังสิ้นสุดรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่ถึงกระนั้น รัฐบาลก็จะต้องพิจารณาว่าประชาชนให้การสนับสนุนมากแค่ไหน
“ผมคิดของผมอย่างนี้ แต่คนอื่นอาจจะคิดต่างได้”
“เราจะต้องดูว่าประชาชนสนับสนุนแนวทางนี้มากพอหรือไม่ และเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนอย่างที่เคยคิดกันในช่วงปลายทศวรรษ 1990 หรือเปล่า”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับขบวนการสนับสนุนสาธารณรัฐและกลุ่มอื่นๆ ที่จะผลักดันเรื่องนี้... สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้สมัยที่ยังเป็นประธานกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นสาธารณรัฐก็คือ ถ้ามีกลุ่มการเมืองคอยขับเคลื่อน หรือเป็นความพยายามเปลี่ยนแปลงจากบนลงล่าง มันจะไม่มีทางสำเร็จได้”
“เรื่องนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชนคนรากหญ้า และผมขอพูดตรงๆ ว่า แรงขับเคลื่อนในปลายทศวรรษ 1990 ยังมีมากกว่าปัจจุบันเสียอีก”
ออสเตรเลียปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ (constitutional monarchy) และแม้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรจะทรงดำรงตำแหน่งประมุขรัฐในเชิงพิธีการเท่านั้น แต่ก็ยังทรงไว้ซึ่งอำนาจในการลงนามยุบสภา และทรงเคยใช้อำนาจนี้มาแล้วในปี 1975
ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐเมื่อปี 1999