เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) มีมติเห็นชอบถ้อยแถลงว่าด้วยกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางและการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอล เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) หลังสามารถคลี่คลายความเห็นต่างในแง่ของถ้อยคำ ซึ่งบางฝ่ายมองว่าเป็นการติเตียนอิสราเอลมากเกินไป
“เรามีมติเห็นชอบ (ถ้อยแถลง) อย่างเป็นเอกฉันท์ และเชื่อว่าเป็นพื้นฐานที่ดีร่วมกันสำหรับจุดยืนของสหภาพยุโรป และการปฏิสัมพันธ์กับภูมิภาคดังกล่าว” เฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายกิจการนอกภูมิภาคของอียู กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูที่กรุงบรัสเซลส์
อิสราเอลและปาเลสไตน์ต่างแสดงท่าทียินดีพอประมาณกับมติของรัฐมนตรีอียูในครั้งนี้
เนื้อหาคำแถลงของอียูได้แสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งต่อเหตุรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้น โดยเรียกร้องให้อิสราเอลและปาเลสไตน์รับผิดชอบต่อการกระทำของฝ่ายตน
“สหภาพยุโรปขอประณามอย่างจริงจังต่อการก่อการร้ายและความรุนแรงจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม รวมไปชีวิตเด็กๆ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อ”
“อียูเชื่อมั่นว่าการฟื้นคืนเส้นขอบฟ้าทางการเมือง (political horizon) และการเจรจาพูดคุยกันเท่านั้นที่จะยุติความรุนแรงได้”
กลุ่มชาติยุโรป 28 ประเทศยังเน้นย้ำเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาแบบ 2 รัฐควบคู่กัน (two-state solution) และจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ซึ่งอาจจะบั่นทอนกระบวนการดังกล่าว
ถ้อยแถลงฉบับนี้ถูกคาดหมายว่าจะผ่านความเห็นชอบโดยไม่ต้องมีการอภิปรายกันมากนัก แต่ก็เกิดความเห็นขัดแย้งขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะในประเด็นที่อียูมีคำสั่งให้ติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยชุมชนชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ว่าเป็นสินค้า “เมด อิน อิสราเอล”
อาร์เล็ม เดซีร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสฝ่ายกิจการยุโรปซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมในนามของรัฐมนตรีต่างประเทศ โลรองต์ ฟาเบียส ระบุว่า ชาติสมาชิกบางประเทศ เช่น กรีซ ต้องการให้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางตอน เนื่องจากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอิสราเอลมากเกินไป
หลังอียูประกาศคำสั่งเรื่องฉลากผลิตภัณฑ์เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว รัฐบาลอิสราเอลได้ตอบโต้อย่างแข็งกร้าว และประกาศระงับความร่วมมือกับหน่วยงานอียูที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางทันที
กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลแถลงในภายหลังว่า รัฐมนตรีอียูยอมปรับถ้อยแถลงให้ “เบาลง” หลังนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และกระทรวงฯ ได้แสดงความไม่พอใจผ่านช่องทางการทูต แต่ถึงกระนั้นอียูก็ยังคง “ใช้สองมาตรฐาน” โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายปาเลสไตน์เองก็มีส่วนขัดขวางกระบวนการสันติภาพ และปลุกปั่นความรุนแรงเช่นกัน
ด้าน ซาเอ็บ เอริกัต หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของปาเลสไตน์ ชี้ว่า คำสั่งติดฉลากผลิตภัณฑ์ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การตรวจสอบได้ และเรียกร้องให้อียูใช้มาตรการเร่งด่วน เช่น คว่ำบาตรสินค้าของชุมชนอิสราเอลในเวสต์แบงก์
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ฮาเรตซ์ (Haaretz) รายงานว่า รัฐบาลอิสราเอลไม่ต้องการให้รัฐมนตรีต่างประเทศอียูรับรองถ้อยแถลงซึ่งจะเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างชาวอิสราเอลในดินแดนอิสราเอล กับชุมชนในดินแดนซึ่งเข้าไปยึดครองอย่างผิดกฎหมาย เพราะจะเสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรในอนาคต
ในถ้อยแถลงวานนี้ (18) รัฐมนตรีต่างประเทศอียูย้ำว่า การตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในพื้นที่ยึดครอง “เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ และอาจส่งผลให้ทางออกแบบ 2 รัฐควบคู่ไม่สามารถเป็นไปได้”