บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - มีผู้เสียชีวิตไป 8 คนในมลรัฐเทกซัส หลังเกิดพายุหมุนทอร์นาโดระลอกใหม่เมื่อคืนวันเสาร์ (26 ธ.ค.) ทำให้ยอดจำนวนคนตายพุ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด 26 คนในรอบ 1 สัปดาห์ซึ่งมลรัฐทางภาคใต้และตอนกลางของสหรัฐฯ เผชิญกับพายุหมุนทอร์นาโด, ฝนกระหน่ำหนัก และน้ำท่วม
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 5 คนในรถหลายคันซึ่งน่าจะถูกทอร์นาโดพัดหลุดออกมาจากถนนมอเตอร์เวย์สายหนึ่งในเมืองการ์แลนด์ อยู่ติดๆ กับดัลลัส และพบศพอีก 3 ศพในเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ กัน
ในเวลาเดียวกันนี้ พวกเจ้าหน้าที่ยังออกมาเตือนว่า เทกซัส และโอคลาโฮมา อาจต้องเผชิญกับ “พายุหิมะรุนแรงเป็นประวัติการณ์” ซึ่งจะทำให้มีหิมะตกหนาถึง 16 นิ้ว (41 เซนติเมตร) และผู้ขับขี่ยวดยานต้องระมัดระวังถนนลื่นเพราะพื้นผิวจับตัวเป็นน้ำแข็ง
พายุที่กระหน่ำใส่ทั่วภาคใต้ของสหรัฐฯ คราวนี้ ถือว่ามีความรุนแรงผิดปกติสำหรับช่วงฤดูหนาว
รายงานข่าวหลายกระแสจากเทกซัสระบุว่า ลมพายุหมุนทำให้โบสถ์หลายแห่งถูกทำลาย รถราพังเสียหาย และต้นไม้หักโค่นลงมาเป็นบริเวณกว้าง
ตำรวจเมืองการ์แลนด์เชื่อว่า ลมหมุนของทอร์นาโดที่พัดผ่านเมืองนี้ในตอนดึกวันเสาร์ (26) เป็นสาเหตุที่ทำให้รถราเกิดอุบัติเหตุ และมีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 5 คน เมลินดา เออร์บินา แห่งสำนักงานนายกเทศมณฑลดัสลัส แถลง
เธอระบุว่า รถซึ่งถูกพายุหมุนเล่นงานคราวนี้ ในเวลาต่อมามีบางคันถูกพบตกอยู่ใต้ทางหลวงสายอินเตอร์สเตท 30 ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองดัลลัสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 15 ไมล์ (24 กิโลเมตร)
ตำรวจหลายนายในเมืองการ์แลนด์ กำลังพยายามค้นหาว่ายังมีผู้บาดเจ็บล้มตายหลงเหลืออยู่ในสถานที่เกิดเหตุคราวนี้หรือไม่
“เราต้องทำงานท่ามกลางความมืดมิดตรงนั้น” ไมก์ แฮตฟิลด์ โฆษกตำรวจการ์แลนด์ กล่าวในคืนวันเสาร์ (26) ทั้งนี้ตามรายงานบนเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เดอะดัลลัสนิวส์
“ไฟถนนทั้งหมดทั้งตามถนนและตามทางหลวงต่างดับไปหมดแล้ว” โฆษกผู้นี้กล่าวต่อ
รายงานของสื่อท้องถิ่นบอกว่า พบศพผู้เสียชีวิตอีก 2 คนที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองโคปวิลล์ และอีก 1 ศพในเมืองบลูริดจ์ ซึ่งต่างเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ดัลลัส
พายุยังสร้างความเสียหายให้บ้านเรือน ตลอดจนโบสถ์จำนวนหนึ่งในบริเวณแถบนี้ ขณะที่สายไฟฟ้าจำนวนมากขาดสะบั้น และมีรายงานว่าสายท่อส่งก๊าซเกิดการระเบิดขึ้นในหลายจุด
สำนักงานอุตุนิยมแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า ได้เกิดพายุหมุนทอร์นาโดระลอกใหญ่ถล่มพื้นที่ใกล้ๆ เมืองดัลลัสและเมืองเล็กๆ อีกหลายเมืองในตอนเหนือของเทกซัส
การเสียชีวิตของผู้คนแถวๆ ดัลลัสคราวนี้บังเกิดขึ้น ขณะที่พื้นที่จำนวนมากในภาคใต้-ตอนกลางของสหรัฐฯเผชิญกับอากาศเลวร้ายมาเป็นเวลาราว 1 สัปดาห์
ก่อนหน้านั้น มีผู้พบศพชายหนึ่งและหญิงหนึ่ง ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าหายไปในช่วงมีพายุทอร์นาโดหมุนคว้างใส่รัฐมิสซิสซิปปี และทำให้จำนวนคนตายในมลรัฐแห่งนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 คน
รายงานระบุด้วยว่ามีผู้บาดเจ็บ 56 คน และบ้านเรือนกว่า 400 หลังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย เมื่อมีทอร์นาโดอย่างน้อย 20 ลูกถล่มใส่รัฐนี้ ทำให้ต้นไม้จำนวนมากหักโค่น และผู้คนหลายพันคนไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส
รายงานกล่าวว่า ทอร์นาโดลูกหนึ่งที่เล่นงานมิสซิสซิปปีนั้นมีขนาดใหญ่มาก และกวาดซัดสร้างความเสียหายเป็นทางยาวกว่า 100 ไมล์ (160 กิโลเมตร) จนกระทั่งเข้าไปในเขตมลรัฐเทนเนสซี
นอกจากที่เทกซัสและมิสซิสซิปปีแล้ว ยังมีรายงานผู้เสียชีวิต 6 คนในเทนเนสซี ขณะที่อาร์คันซอ และ แอละแบมา ก็มีคนตายไปรัฐละ 1 คน
การที่สหรัฐฯ เผชิญกับภาวะอากาศรุนแรงมากในช่วงเวลาก่อนเทศกาลคริสต์มาส ไม่ถึงกับเป็นเรื่องผิดปกติมากมายอะไรนัก แต่พวกนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ในปีนี้ปรากฏว่ามีบางพื้นที่อุณหภูมิสูงอย่างชนิดผิดฤดูกาล จึงทำให้ลมพายุซึ่งเกิดขึ้นมีความหนักหน่วงสาหัสเป็นพิเศษ