ฝรั่งเศสเดินหน้าถอนสัญชาติพลเมืองต้องโทษคดีก่อการร้าย

รอยเตอร์ - รัฐบาลฝรั่งเศสจะเดินหน้าแผนถอนสัญชาติพลเมืองชาวแดนน้ำหอมในคดีก่อการร้ายซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียง นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ เผยในวันพุธ (23 ธ.ค.) ท่าทีที่เพิกเฉยต่อความกังวลจากรัฐมนตรียุติธรรม

การตัดสินใจดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากพันธมิตรฝ่ายซ้ายของรัฐบาลที่นำโดยพรรคโซเชียลิสต์ นอกจากนี้ยังมีเสียงเรียกร้องจากพวกฝ่ายขวาให้นางคริสติน โตบิล ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเธอออกมาคัดค้านมาตรการนี้อย่างเปิดเผย

หลังจากมือปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตายอิสลามิสต์ก่อวินาศกรรมโจมตีปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน คร่าชีวิต 130 ศพ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ เรียกร้องให้ออกมาตรการนี้ ส่วนหนึ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเป้าหมายยกระดับต่อสู้กับก่อการร้าย

นางโตบิลเผยเมื่อวันอังคาร (22 ธ.ค.) ว่ามาตรการนี้ควรถูกถอดออกจากพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ด้วยมันเสี่ยงก่อปัญหาพื้นฐานในเรื่องสิทธิความเป็นพลเมืองฝรั่งเศสอันเนื่องแต่สถานที่เกิด

อย่างไรก็ตาม ในการเปิดตัวพระราชบัญญัติในวันพุธ (23 ธ.ค.) นายวาลส์ปกป้องมาตรการนี้ โดยระบุว่ามันจะถูกจำกัดอย่างเข้มงวดเฉพาะกับบุคคลที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาก่อการร้ายเท่านั้นและจะถูกใช้ก็ต่อเมื่อคนเหล่านั้นชดใช้โทษหมดแล้ว

ในโต๊ะแถลงข่าวเดียวกัน นางโตบิล ปฏิเสธข่าวลือว่าเธอจะลาออกจากตำแหน่ง “ในภาวะปัจจุบันการมีหรือไม่มีฉันอยู่ในรัฐบาลมันไม่ใช่ประเด็น ท่านประธานาธิบดีและรัฐบาลมีความสามารถสำหรับจัดการอันตรายที่พวกเรากำลังเผชิญได้อยู่แล้ว”

ปัจจุบันมีเพียงพลเมืองโดยการแปลงสัญชาติเท่านั้นที่มีสิทธิถูกถอดสัญชาติฝรั่งเศส ดังนั้นการขยายมาตรการสู่ประชาชนทุกคนจึงก่อความแตกแยกในเหล่านักการเมืองจากทั้งฝ่ายซ้ายและขวา เช่นเดียวกับภาคส่วนอื่นๆ โดยศาลปกครองสูงสุดสนับสนุนแผนนี้ แต่ทางองค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลกลับไม่เห็นด้วย ด้วยอ้างว่าเสมือนเป็นการแบ่งแยกชนชั้นพลเมือง

อนึ่ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกจากทั้งสองสภา 3 ใน 5 หรือไม่ก็ผ่านการทำประชามติ