เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี มานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศส ได้เรียกร้องต่อสหภาพยุโรปเมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) ให้จำกัดจำนวนผู้อพยพที่จะปล่อยให้เข้าสู่ยุโรป เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยหลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่ปารีส
"ยุโรปต้องพูดได้แล้วว่าไม่อาจจะให้การสงเคราะห์แก่ผู้อพยพจำนวนมากได้อีกต่อไป มันเป็นไปไม่ได้แล้ว" หนังสือพิมพ์ ซุดดอยช์ ไซตุ้ง ของเยอรมัน รายงานคำพูดของวาลส์ ที่กล่าวขณะทานอาหารเที่ยงกับสื่อต่างชาติ
"การควบคุมชายแดนชั้นนอกของสหภาพยุโรปถือเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตอียู หากเราไม่ทำแบบนั้น ผู้คนจะพากันพูดว่า พอได้แล้วยุโรป" เขากล่าว
ยุโรปได้ดิ้นรนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วในการรับมือกับวิกฤติผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยได้เพิ่มสูงขึ้น หลังจากพวกนักรบญิฮัดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ก่อการร้ายสังหารผู้คนไป 130 รายในปารีส
อียูได้เห็นพ้องกันระหว่างการประชุมเมื่อวันศุกร์ ที่จะเร่งปฏิรูปการยกเว้นพาสปอร์ตในเชงเก้นโซนภายในสิ้นปี ซึ่งทางฝรั่งเศสยังได้ผลักดันแผนการเก็บข้อมูลผู้โดยสารทางอากาศด้วย
ฝรั่งเศสยังได้ยกระดับความพยายามในการสร้างแนวร่วมพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ซึ่งวาลส์ได้เตือนว่าพวกนักรบญิฮัดกลุ่มนี้เป็นภัยคุกคามต่อเยอรมันและอิตาลีด้วย
เขาบอกว่าอียูต้องปกป้องตนเองโดยจัดการวิกฤติผู้อพยพที่ต้นตอ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนนับล้านที่หลบหนีออกมาจากซีเรียจะต้องถูกรับมืออยู่ในประเทศที่ติดชายแดนซีเรียแทนที่จะปล่อยให้เข้ามายุโรป
"ยุโรปต้องหาทางทำให้แน่ใจว่าผู้อพยพเหล่านั้นจะถูกรับมือในประเทศข้างเคียงของซีเรีย ไม่อย่างนั้นความสามารถในการควบคุมชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพของยุโรปจะต้องถูกตั้งคำถามแน่นอน" วาลส์กล่าว