เอเอฟพี – ยาสซิน ซาลฮี (Yassin Salhi) อดีตพนักงานขับรถโรงงานชาวฝรั่งเศสวัย 35 ปี ถูกพบเป็นศพในคืนวันอังคาร(22)ที่ผ่านมาที่เรือนจำ Fleury-Merogis ชานเมืองทางใต้ของกรุงปารีส หลังจากก่อนหน้านี้ ซาลฮีก่อคดีสุดโหด ฆ่าตัดหัวนายจ้าง และนำมาเสียบไว้บนรั้วบริษัทก๊าซอุตสาหกรรมที่มีธงศาสนาอิสลามปักร่วม
เอเอฟพีรายงานวันนี้(23)ว่า มีรายงานพบศพผู้ร้ายฆ่าตัดหัวเสียชีวิตคาเรือนจำ Fleury-Merogis ชานเมืองทางใต้ของกรุงปารีสในคืนวานนี้(22) ซึ่งตำรวจฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ในวันพุธ(23)ว่า ยาสซิน ซาลฮี (Yassin Salhi) อดีตพนักงานขับรถโรงงานชาวฝรั่งเศสวัย 35 ปีทำการปลิดชีพตัวเองด้วยการใช้ผ้าปูที่นอนแขวนคอกับลูกกรงของห้องขังของตัวเอง
โดยซาลฮีถูกจับกุมเนื่องจากก่อเหตุฆ่าและตัดคอเจ้านายของตัวเอง Herve Cornara ที่เมืองอีแซร์ (Isere) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
และหลังจากที่ได้ตัดศรีษะของ Cornara แล้ว ซาลฮีได้นำศรีษะของชายผู้นี้นำมาเสียบประจานบนรั้วโรงงานก๊าซอุตสาหกรรม พร้อมกับมีธงอิสลามปักไว้ล้อมรอบ
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ซาลฮียังพยายามจะระเบิดโรงงานแห่งนี้ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากถูกจับกุมตัวได้ก่อน และได้นำตัวไปฝากขัง
และมีรายงานว่าคนร้ายวัย 35 ปีผู้นี้ถูกขังเดี่ยว และไม่พบว่ามีความเสี่ยงจะก่อเหตุปลิดชีพตัวเอง
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ซาลฮีเคยประกาศว่า การก่อเหตุสังหารเจ้านายตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องในแรงจูงใจทางศาสนาอิสลาม แต่ทว่าอัยการฝรั่งเศสได้ตั้งข้อหาเขา คดีก่อการร้ายจากแรงจูงใจที่มีความคิดรุนแรงเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ซาลฮีที่มีสถานภาพสมรส และมีบุตร 3 คน เกิดที่เมืองปงตาร์ลิเย่ (Pontarlier) ทางตะวันออกของประเทศ ใกล้พรมแดนสวิตเซอร์แลนด์ และพบว่าบิดาของซาลฮีเป็นชาวแอลจีเรีย และมาราดาเป็นชาวโมร็อกโค
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ซาลฮีตกเป็นเป้าจับตาของหน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสในช่วงปี 2005 – 2006 เนื่องจากชายชาวฝรั่งเศสผู้นี้ข้องเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนาอิสลาม แหล่งข่าวใกล้ชิดวงในเปิดเผยกับเอเอฟพีในเดือนมิถุนายน 2015 ในขณะที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญ
และมีรายงานว่า การข่าวฝรั่งเศสได้ตรวจสอบชายผู้นี้ไม่กี่ปีต่อมาหลังจากนั้น แต่ก็หยุดไปในที่สุดในปี 2008
อย่างไรก็ตามในปี 2013 ซาลฮีกลับเข้ามาสู่ความสนใจของหน่วยข่าวฝรั่งเศสอีกครั้ง หลังจากพบว่า ชายผู้นี้ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง และเป็นปีที่ซาลฮีเริ่มไว้หนวดเครายาวตามแบบมุสลิมในตะวันออกกลาง และหันมาสวมเสื้อคลุมแบบแอฟริกาเหนือที่เรียกว่า เจลาบา (djellaba)