วอลล์สตรีทเจอร์นัล/รอยเตอร์ - น้ำมันสหรัฐฯ ปรับขึ้นในวันอังคาร (22 ธ.ค.) จากการช้อนซื้อหลังราคาลงแตะระดับต่ำสุดรอบหลายปี ปัจจัยนี้ดันวอลล์สตรีทพุ่งแรงท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใส ขณะที่ทองคำปิดในแดนลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 33 เซ็นต์ ปิดที่ 36.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 24 เซ็นต์ ปิดที่ 36.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด ดูเหมือนว่านักลงทุนจะช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรหลังก่อนหน้านี้เบรนต์ขยับลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ปี 2004 และเวสต์เทกซัส ปรับลดต่ำกว่า 34 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และโบรกเกอร์จำนวนมากชี้ว่ากำลังผลิตที่ยังเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯและตัวเลขการส่งออกที่กำยำจากซาอุดีอาระเบีย ส่งสัญญาณว่าภาวะอุปทานล้านตลาดคงไม่จางหายไปในเร็วๆนี้ ทำให้เชื่อว่าราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (22 ธ.ค.) ขยับขึ้นแข็งแกร่งจากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อยและข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใสของอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 165.65 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.417.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.82 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,038.97 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 32.19 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,001.11 จุด
นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวในทางบวกของราคาน้ำมันแล้ว วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่เผยว่าจีดีพีช่วงไตรมาส 3 ของประเทศ ขยายตัว 2.0 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการบริโภคที่แข็งแกร่งและการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ
ด้านราคาทองคำเมื่อวันอังคาร (22 ธ.ค.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน หลังความคึกคักในตลาดหุ้นดึงนักลงทุนหันเหความสนใจไปจากสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,074.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์