(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
PBOC’s easing of bond rules should spur central bank buying
By Asia Unhedged
16/07/2015
แบงก์ชาติจีนประกาศผ่อนคลายระเบียบที่เคยใช้จำกัดไม่ให้ธนาคารกลางของต่างชาติ เข้าซื้อพันธบัตรของภาครัฐจีน ทำให้คาดการณ์กันว่าจะเกิดกระแสแห่เข้าซื้ออย่างคึกคัก สำหรับเหตุผลที่ธนาคารกลางแดนมังกรมีความเคลื่อนไหวเช่นนี้ ก็เนื่องจากต้องการเพิ่มน้ำหนักให้แก่สกุลเงินหยวน ในเวลาที่ไอเอ็มเอฟพิจารณาตัดสินว่าจะให้สกุลเงินตราใดบ้างมีฐานะเป็นสกุลเงินตราสำรองอย่างเป็นทางการของตน
แบงก์ชาติจีน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (People’s Bank of China ใช้อักษรย่อว่า PBOC) กำลังผ่อนคลายระเบียบกฎเกณฑ์ที่เคยใช้เพื่อจำกัดไม่ให้ธนาคารกลางของต่างชาติ เข้าซื้อพันธบัตรของภาครัฐจีน ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ควรที่จะกระตุ้นให้เกิดกระแสเข้าซื้ออย่างคึกคัก
จุคคา พิห์ลมาน (Jukka Pihlman)ผู้อำนวยการทำหน้าที่ดูแลลูกค้าธนาคารกลางและกองทุนเพื่อการลงทุนของภาครัฐ (head of central banks and sovereign-wealth funds) ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด บอกกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (Wall Street Journal ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.wsj.com/articles/central-banks-likely-to-jump-into-china-bond-market-1437020396) ว่า ประกาศที่ออกมาเมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) ของ PBOC นี้ ได้ก่อให้เกิดความตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากเรียบร้อยแล้ว เขากล่าวว่าพวกลูกค้าของเขา ซึ่งมีทั้งแบงก์ชาติและกองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐของประเทศต่างๆ นั้น ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะสามารถเข้าถึงตลาดพันธบัตรมูลค่า 6.1 ล้านล้านดอลลาร์ของจีนได้อย่างเสรี
พิห์ลมานบอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ลูกค้าเหล่านี้มีความต้องการเข้าถึงพันธบัตรจีนมานานแล้ว ทว่าในอดีตที่ผ่านมา การเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ ต้องผ่านกระบวนการในการยื่นสมัครซึ่งทั้งใช้เวลานานและทั้งยุ่งยากซับซ้อน
เขาแจกแจงว่าตามระเบียบเดิมอาจต้องใช้เวลา “หลายๆ เดือนหรือกระทั่งมากกว่า 1 ปี” จึงจะได้สิ่งที่เรียกกันว่า การประทับตราอนุมัติ
ขณะที่กรรมวิธีใหม่ “ง่ายกว่ากันมาก” โดยกำหนดให้ธนาคารกลาง, กองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐ, และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลาย กรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีความยาว 2 หน้ากับทาง PBOC เท่านั้น
พิห์ลมาน บอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า เขาเชื่อว่าเมื่อสามารถเข้าถึงพันธบัตรจีนได้อย่างเสรีเช่นนี้ ก็จะ “กระตุ้นให้เกิดระลอกของการลงทุนภาครัฐ ในตลาดออนชอร์ของจีนระลอกใหม่ขึ้นมา”
PBOC ตัดสินใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกข้อจำกัดในการซื้อพันธบัตรของภาครัฐจีนแล้ว สืบเนื่องจากต้องการให้เงินหยวนได้รับการยอมรับว่าเป็นสกุลเงินตราสำรองอย่างเป็นทางการสกุลหนึ่ง จากทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งมีกำหนดจะพิจารณาเรื่องนี้ในช่วงต่อไปของปีนี้ ทั้งนี้ถ้าเงินหยวนได้รับการยอมรับดังกล่าว ก็จะทำให้สกุลเงินตราของจีนอยู่ในฐานะเท่าเทียมกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ, เงินเยนญี่ปุ่น, เงินยูโร, และเงินปอนด์สเตอร์ลิง
รายงานข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุด้วยว่า ทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดประมาณการว่า ปัจจุบันมีธนาคารกลางมากกว่า 60 แห่งที่เข้าลงทุนในเงินหยวน ทั้งในรูปของเงินฝากและในรูปของพันธบัตร โดยตามข้อมูลของ PBOC ณ ตอนสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกธนาคารกลางต่างประเทศถือทุนสำรองอย่างเป็นทางการของพวกเขาเอาไว้เป็นสกุลเงินหยวน จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 107,500 ล้านดอลลาร์
PBOC’s easing of bond rules should spur central bank buying
By Asia Unhedged
16/07/2015
แบงก์ชาติจีนประกาศผ่อนคลายระเบียบที่เคยใช้จำกัดไม่ให้ธนาคารกลางของต่างชาติ เข้าซื้อพันธบัตรของภาครัฐจีน ทำให้คาดการณ์กันว่าจะเกิดกระแสแห่เข้าซื้ออย่างคึกคัก สำหรับเหตุผลที่ธนาคารกลางแดนมังกรมีความเคลื่อนไหวเช่นนี้ ก็เนื่องจากต้องการเพิ่มน้ำหนักให้แก่สกุลเงินหยวน ในเวลาที่ไอเอ็มเอฟพิจารณาตัดสินว่าจะให้สกุลเงินตราใดบ้างมีฐานะเป็นสกุลเงินตราสำรองอย่างเป็นทางการของตน
แบงก์ชาติจีน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (People’s Bank of China ใช้อักษรย่อว่า PBOC) กำลังผ่อนคลายระเบียบกฎเกณฑ์ที่เคยใช้เพื่อจำกัดไม่ให้ธนาคารกลางของต่างชาติ เข้าซื้อพันธบัตรของภาครัฐจีน ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ควรที่จะกระตุ้นให้เกิดกระแสเข้าซื้ออย่างคึกคัก
จุคคา พิห์ลมาน (Jukka Pihlman)ผู้อำนวยการทำหน้าที่ดูแลลูกค้าธนาคารกลางและกองทุนเพื่อการลงทุนของภาครัฐ (head of central banks and sovereign-wealth funds) ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด บอกกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (Wall Street Journal ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.wsj.com/articles/central-banks-likely-to-jump-into-china-bond-market-1437020396) ว่า ประกาศที่ออกมาเมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) ของ PBOC นี้ ได้ก่อให้เกิดความตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากเรียบร้อยแล้ว เขากล่าวว่าพวกลูกค้าของเขา ซึ่งมีทั้งแบงก์ชาติและกองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐของประเทศต่างๆ นั้น ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะสามารถเข้าถึงตลาดพันธบัตรมูลค่า 6.1 ล้านล้านดอลลาร์ของจีนได้อย่างเสรี
พิห์ลมานบอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ลูกค้าเหล่านี้มีความต้องการเข้าถึงพันธบัตรจีนมานานแล้ว ทว่าในอดีตที่ผ่านมา การเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ ต้องผ่านกระบวนการในการยื่นสมัครซึ่งทั้งใช้เวลานานและทั้งยุ่งยากซับซ้อน
เขาแจกแจงว่าตามระเบียบเดิมอาจต้องใช้เวลา “หลายๆ เดือนหรือกระทั่งมากกว่า 1 ปี” จึงจะได้สิ่งที่เรียกกันว่า การประทับตราอนุมัติ
ขณะที่กรรมวิธีใหม่ “ง่ายกว่ากันมาก” โดยกำหนดให้ธนาคารกลาง, กองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐ, และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลาย กรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีความยาว 2 หน้ากับทาง PBOC เท่านั้น
พิห์ลมาน บอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า เขาเชื่อว่าเมื่อสามารถเข้าถึงพันธบัตรจีนได้อย่างเสรีเช่นนี้ ก็จะ “กระตุ้นให้เกิดระลอกของการลงทุนภาครัฐ ในตลาดออนชอร์ของจีนระลอกใหม่ขึ้นมา”
PBOC ตัดสินใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกข้อจำกัดในการซื้อพันธบัตรของภาครัฐจีนแล้ว สืบเนื่องจากต้องการให้เงินหยวนได้รับการยอมรับว่าเป็นสกุลเงินตราสำรองอย่างเป็นทางการสกุลหนึ่ง จากทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งมีกำหนดจะพิจารณาเรื่องนี้ในช่วงต่อไปของปีนี้ ทั้งนี้ถ้าเงินหยวนได้รับการยอมรับดังกล่าว ก็จะทำให้สกุลเงินตราของจีนอยู่ในฐานะเท่าเทียมกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ, เงินเยนญี่ปุ่น, เงินยูโร, และเงินปอนด์สเตอร์ลิง
รายงานข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุด้วยว่า ทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดประมาณการว่า ปัจจุบันมีธนาคารกลางมากกว่า 60 แห่งที่เข้าลงทุนในเงินหยวน ทั้งในรูปของเงินฝากและในรูปของพันธบัตร โดยตามข้อมูลของ PBOC ณ ตอนสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกธนาคารกลางต่างประเทศถือทุนสำรองอย่างเป็นทางการของพวกเขาเอาไว้เป็นสกุลเงินหยวน จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 107,500 ล้านดอลลาร์