เอเอฟพี - มาลาลา ยูซาฟไซ เด็กสาวชาวปากีสถานเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2014 ประณามมุมมองที่มหาเศรษฐี “โดนัลด์ ทรัมป์” มีต่อชาวมุสลิม เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ขณะไปร่วมงานรำลึกถึงเด็กนักเรียน 134 คนซึ่งถูกกลุ่มตอลิบานสังหารหมู่ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว
มาลาลาให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเกี่ยวกับแนวคิดของผู้สมัครเต็งหนึ่งในศึกชิงตัวแทนพรรครีพับลิกันว่า “มันเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ เวลาที่คุณได้ยินความคิดเห็นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และค่านิยมแบ่งแยกผู้คนเช่นนี้”
ทรัมป์ วัย 69 ปี เรียกร้องให้สหรัฐฯ ห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าประเทศ หลังเกิดเหตุผัวเมียมุสลิมใช้อาวุธสงครามกราดยิงงานปาร์ตี้ในศูนย์พัฒนาผู้พิการที่เมืองซานเบอร์นาดิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งทางการสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่าเป็นคดี “ก่อการร้าย”
ไซอุดดิน ยูซาฟไซ บิดาของมาลาลาซึ่งไปร่วมงานรำลึกที่จัดขึ้นในเมืองเบอร์มิงแฮมทางตอนกลางของอังกฤษก็วิจารณ์ความคิดสุดโต่งของทรัมป์เช่นกัน
“มันไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรมเอามากๆ ที่จะเหมาโทษคนอีก 1,600 ล้านคน เพียงเพราะการกระทำชั่วขององค์กรก่อการร้ายไม่กี่กลุ่ม” เขากล่าว โดยอ้างสถิติประชากรมุสลิมที่มีอยู่ทั่วโลก
มาลาลาและครอบครัวของเธอได้จัดงานรำลึกถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เมืองเปชวาร์ โดยมีเด็กผู้รอดชีวิต 2 คนเดินทางมาร่วมงานด้วย ได้แก่ อะหมัด นาวาซ วัย 14 ปี และ โมฮาเหม็ด อิบรอฮีม วัย 13 ปี
กลุ่มหัวรุนแรง 9 คนได้ปีนกำแพงโรงเรียน อาร์มี พับลิก สกูล ซึ่งดำเนินงานโดยกองทัพปากีสถาน จากนั้นก็ขว้างปาระเบิดมือและสาดกระสุนใส่เด็กๆ และครูที่กำลังตื่นตระหนก
“การก่อการร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นตลอดมา เช่นที่กรุงปารีส หรือที่เมืองเปชวาร์เมื่อ 1 ปีก่อน” มาลาลา เอ่ยถึงเหตุวินาศกรรมในเมืองหลวงฝรั่งเศสเดือนที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 130 ราย
“ไม่ใช่แค่ในปากีสถานเท่านั้น แต่ยังมีความจำเป็นทั่วโลก หากเราต้องการหยุดยั้งลัทธิก่อการร้าย เราจำเป็นที่จะต้องยกระดับคุณภาพการศึกษาแก่เยาวชน เพื่อเอาชนะค่านิยมก่อการร้ายและความเกลียดชัง”
นาวาซซึ่งแต่งกายชุดชัลวาร์ คามีซ แบบชาวปากีสถาน เล่าเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นในโรงเรียนของเขาเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งยังทำให้ผู้ใหญ่เสียชีวิตไป 17 ราย
“ผมเห็นครูถูกเผาทั้งเป็น และเพื่อนๆ ที่ผมกำลังเล่นด้วย” เขาบอก
“ศพเพื่อนๆ ที่ตายอยู่รอบตัวผมเต็มไปหมด มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวสำหรับชีวิต และผมก็ยังนอนฝันร้ายอยู่”
นาวาซถูกยิงเข้าที่แขน ส่วนพี่ชายของเขาเสียชีวิต ด้าน อิบรอฮีม แม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็พิการตั้งแต่ช่วงเอวลงไปจนต้องนั่งวีลแชร์
เหตุโจมตีโรงเรียนในเมืองเปชวาร์ยังปลุกความทรงจำที่เจ็บปวดให้แก่ครอบครัวมาลาลา ในวันที่ลูกสาวของพวกเขาถูกนักรบตอลิบานบุกยิงศีรษะ เมื่อปี 2012 เนื่องจากออกมารณรงค์เรื่องการศึกษาของเด็กผู้หญิง
“ตอนที่ผมฟังข่าวและได้เห็นเหตุการณ์ทางโทรทัศน์ ภรรยาผมถึงกับร้องไห้ ผมเองก็ร้องไห้... มันสุดจะทนจริงๆ เราแทบจะดูต่อไปไม่ไหว มันทำให้นึกถึงความทรงจำที่ยังเจ็บปวด” บิดาของมาลาลากล่าว
“โดยปกติแล้วเราไม่เคยสาปแช่งใคร เพราะการแช่งถือเป็นบาป และเราก็ไม่เคยแช่งพวกตอลิบานที่ทำร้ายลูกสาวเรา แต่ผมยอมรับว่าวันนั้นผมหลุดปากแช่งพวกเขา”