รอยเตอร์ - ทางการลอสแองเจลิสตื่นตระหนก ปิดโรงเรียนทุกแห่งในวันอังคาร(15ธ.ค.) สั่งนักเรียนทั้งหมดราว 643,000 คนอยู่แต่ที่บ้าน หลังเจ้าหน้าที่ได้รับอีเมลข่มขู่ ไม่กี่สัปดาห์หลังเพิ่งเกิดเหตุโจมตีนองเลือดที่ได้แรงบันดาลใจจากพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซานเบอร์นาร์ดิโน
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโรงเรียนราว 900 แห่งทั่วเมืองแห่งนี้ ระหว่างคำสั่งปิดเขตการศึกษาใหญ่สุดลำดับ 2 ของประเทศ ซึ่งถือเป็นการปิดสถาบันการศึกษาในขอบเขตที่กว้างขวางอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ด้านหัวหน้ากรมตำรวจนิวยอร์กซิตีเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับคำขู่แบบเดียวกัน แต่ไม่มีมาตรการใดๆ และบ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวปิดโรงเรียนในลอสแองเจลิสอาจเป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เลยเถิดเกินจริง
รามอน คอร์ติเนส ผู้ตรวจการด้านการศึกษาระบุว่า เขตการศึกษาลอสแองเจลิสเคยได้รับคำขู่อยู่เป็นประจำ แต่คราวนี้มีความชัดเจนมากกว่าที่ผ่านมา “มันเป็นคำขู่ที่ไม่เคยพบเจอบ่อยนัก มันไม่ใช่แค่โรงเรียนเดียว 2 หรือ 3 โรงเรียน แต่มันครอบคลุมถึงโรงเรียนจำนวนมาก” เขาแถลงกับผู้สื่อข่าว “ผมจะไม่ยอมให้เด็กเข้าไปในอาคารเรียนจนกว่าเราจะรู้แน่ชัดว่ามันปลอดภัยแล้ว”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งบอกว่าคณะสืบสวนกำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ของการวางระเบิด อันเกี่ยวข้องกับการปิดโรงเรียนต่างๆ ในลอสแองเจลิสคราวนี้ ขณะที่คอร์ติเนสระบุว่า คำขู่ดังกล่าวเป็นการส่งอีเมลมายังคณะกรรมการบริหารโรงเรียนรายหนึ่งโดยพาดพิงถึงกระเป๋าเป้แและพัสดุหีบห่ออื่นๆ
ในนิวยอร์ก วิลเลียม แบรตตัน ผู้บัญชาการตำรวจเปิดเผยว่า เขตการศึกษาแห่งนี้ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศก็ได้รับคำขู่เช่นกันในวันอังคาร (15 ธ.ค.) แต่พวกเขามองว่ามันไม่น่าเชื่อถือและเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอีเมลเดียวกับที่ส่งไปยังลอสแองเจลิส
“แอลเอคือเขตการศึกษาขนาดใหญ่ อีเมลลึกลับก่อความวุ่นวายต่อการเรียนการสอนประจำวันแก่นักเรียนราวครึ่งล้านคน ผู้ปกครองของพวกเขา สถานรับเลี้ยงเด็กและรถรับส่ง แต่หากในข้อเท็จจริงคือไม่ได้มีการปรึกษากับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ผมคิดว่ามันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เลยเถิดเกินไป”
เหล่าผู้ปกครองจำนวนมากต้องตะเกียกตะกายวางแผนมารับลูกหลานตามหลังการปิดโรงเรียนอย่างกะทันหัน ขณะที่คนอื่นๆ ใช้สื่อสังคมออนไลน์แสดงความผิดหวังที่ได้รับทราบข่าวการปิดโรงเรียนจากสื่อมวลชนแทนที่จะได้รับแจ้งโดยตรงจากทางโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม คาเรน บาสส์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี ยกย่องเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่อการลงมืออย่างรวดเร็ว “ฉันไม่สงสัยเลยว่าพวกเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
คำขู่นี้มีขึ้นเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ ตามหลังสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไอเอส ก่อเหตุกราดยิงฆ่า 14 ศพในเบอร์นาร์ดิโน ห่างจากลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกแค่ 100 กิโลเมตร
เหตุโจมตีดังกล่าวและเหตุกราดยิงสังหารหมู่อื่นๆเมื่อเร็วๆนี้ ผลักประเด็นนักรบอิสลามิสต์และความรุนแรงจากอาวุธปืนเข้าสู่วาระต้นๆ ของศึกรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สหรัฐฯ ต้องประสบกับเหตุโจมตีนองเลือดในโรงเรียนหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากกลุ่มมือปืน โดยหนึ่งในครั้งรุนแรงที่สุดของช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ได้แก่ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 32 คน ส่วนลำดับ 2 เป็นเหตุการณ์ที่มือปืนรายหนึ่งบุกเดี่ยวฆ่าเด็กๆ 20 คน และครู 6 คนในโรงเรียนประถมแซนดี ฮุค ในนิวทาวน์ มลรัฐคอนเนตทิคัต เมื่อปี 2012