เอเอฟพี - ประธานบริษัทขนส่งสินค้าทางอากาศแห่งหนึ่งเมื่อวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ชี้แจงว่าบริษัทซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 747 สามลำที่ถูกจอดทิ้งไว้ ณ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์นานเป็นปี มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และรู้สึกตกตะลึงต่อคำกล่าวอ้างของสนามบินที่ว่าพวกเขาหาเจ้าของไม่พบ
ผู้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์มาเลเซียฉบับหนึ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าติดต่อกับเจ้าของเครืองบินโบอิ้ง 747-200F ไม่ได้และเรียกร้องให้เจ้าของออกมาแสดงตัว ไม่อย่างนั้นก็จะนำพวกมันออกขาย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บลู ปีเตอร์สัน ซีอีโอของสวิฟต์แอร์คาร์โก ซึ่งมีสำนักงานในมาเลเซีย บอกกับเอเอฟพีว่าบริษัทของเขาซื้อเครื่องบินทั้ง 3 ลำมาจากเจ้าของเดิมในเดือนมิถุนายนและได้ติดต่อกับฝ่ายบริหารของท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์มาหลายเดือนแล้ว “ผมตื่นเช้าขึ้นมาในวันที่ 7 ธันวาคม และตกตะลึงกับข่าวที่พวกเขากำลังตามหาเจ้าของ”
ปีเตอร์สัน วัย 55 ปี บอกต่อว่า ผู้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ปฏิเสธยอมรับซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าสวิฟต์แอร์คาร์โกเป็นเจ้าของเครื่องบินทั้ง 3 ลำ แม้ว่าทางบริษัทเคยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องไปแสดง ในนั้นรวมถึงใบแจ้งจากเจ้าของเดิม ซึ่งเขาปฏิเสธเปิดเผยชื่อบริษัทดังกล่าว
สวิฟต์แอร์คาร์โกกำลังรอคำอนุญาตจากมาเลเซีย ก่อนที่จะเริ่มนำเครื่องบินเหล่านั้นคืนสู่ปฏิบัติการอีกครั้ง ขณะที่เอเอฟพีได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับมาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิงส์ เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารงานสนามบินกัวลาลัมเปอร์ เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของนายปีเตอร์สัน แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ
ในถ้อยแถลงที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์สวิฟต์แอร์คาร์โก ทางบริษัทยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ทิ้งเครื่องบิน ขณะที่ ปีเตอร์สัน คาดเดาว่าการลงโฆษณาน่าจะเป็นกลยุทธ์ของทาง MAHB ในการเรียกเก็บเงินค่าลงจอด จอดเครื่องและค่าบริการอื่น ๆ จากเจ้าของเดิม
“บางทีมันอาจเป็นเกมเตะถ่วง พวกเขาต้องการขายเครื่องบินเพื่อชดเชยเงินค้างชำระค่าจอดจากเจ้าของคนก่อน แต่ผมบอกกับพวกเขาไปหลายครั้งแล้วว่า ผมมีความตั้งใจนั่งลงเจรจากับพวกเขา และจะยอมจ่ายเงินแทนบางส่วน” เขาเผยกับเอเอฟพี “ยังไงดีล่ะ ที่นี่คือมาเลเซีย ผมให้ความเคารพพวกเขามาก แต่ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ตอนนี้ผมทำได้แค่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายความเท่านั้น”
ทางสนามบินระบุว่า หากไม่มีการชำระค่าบริการต่างๆภายในวันที่ 21 ธันวาคม จะมีการนำเครื่องบินทั้ง 3 ลำออกประมูล หรือไม่ก็จะขายเป็นเศษเหล็ก