เอเจนซีส์ - แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยรายงานว่า ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย IS “อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี” (Abu Bakr al-Baghdadi) สามารถมีชีวิตรอดจากการโจมตีทางอากาศของกองกำลังรัสเซียในขณะอยู่ในคาราวานขบวนรถในอิรักเมื่อตุลาคมล่าสุด และได้รับการผ่าตัดช่วยชีวิตในเมืองรักกา ซีเรีย ก่อนที่จะแอบลอบเข้าตุรกีเพื่อทำการรักษาเพิ่มเติม และได้มุ่งหน้าลี้ภัยไปยังเมืองเซิร์ต (Sirte) ถิ่นเก่าอดีตผู้นำเผด็จการกัดดาฟี ในลิเบียเพื่อการพักฟื้น ในขณะที่สื่ออิตาลีรายงาน รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ได้ให้สัมภาษณ์ทราบถึงข่าวของผู้นำ IS อยู่ในลิเบีย แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นจริงหรือไม่
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ว่า มีรายงานจากแหล่งข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า คอลิฟะห์กลุ่มก่อการร้าย IS อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี (Abu Bakr al-Baghdadi) สามารถหลบการโจมตีของกองกำลังรัสเซียไปได้ และได้เดินทางไปหลบภัยในเมืองเซิร์ต (Sirte) ลิเบีย ที่ทางกลุ่มยึดไว้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตผู้นำเผด็จการลิเบีย ประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิหร่านฟาร์ส (FARS) อ้างว่า ได้มีการลอบนำอัล-บักห์ดาดี ผู้นำก่อการร้าย IS ลอบเข้าไปในตุรกีเพื่อทำการรักษาตัว หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในขณะอยู่ในขบวนคาราวานทางรถที่ จ.อันบาร์ ทางตะวันตกของอิรัก เพื่อมุ่งหน้าไปประชุมกับแกนนำระดับสูง
โดยในการโจมตีครั้งนั้นทำให้มีกลุ่มติดอาวุธเสียไปมากถึง 25 คน ซึ่งเกิดมาจากการประสานงานร่วมกันระหว่างข่าวกรองอิรัก อิหร่าน ซีเรีย และรัสเซีย
ซึ่งฟาร์สอ้างว่า ในเบื้องต้นคอลิฟะห์ IS ถูกนำไปยังเมืองรักกา เขตยึดครองของทางกลุ่มในซีเรีย เพื่อทำการรักษาฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งแพทย์ประจำกลุ่มประสบความสำเร็จยื้อชีวิตอัล-บักห์ดาดีไว้ได้ แต่ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องมือเฉพาะทางการแพทย์ และเป็นเหตุผลที่ต้องลอบส่งผู้นำ IS เข้าตุรกี
ฟาร์สได้อ้างต่อว่า อัล-บักห์ดาดีถูกนำไปยังตุรกีไม่กี่วันหลังจากนั้น ซึ่งทำได้สำเร็จจากการประสานงานของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ CIA และหน่วยงานข่าวกรองตุรกี MIT โดยแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ภาษาอารบิก อัล-มานาร์ (al-Manar) ว่า “ทาง CIA ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานข่าวกรองตุรกี MIT ในการย้ายอัล-บักห์ดาดีไปยังตุรกี”
อย่างไรก็ตาม การกล่าวอ้างของแหล่งข่าวที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ และไม่่ได้รับการยืนยันที่โยงไปถึง CIA และ MIT นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นจริงหรือไม่
และแหล่งข่าวคนเดียวกันนี้ยังอ้างต่อว่า ผู้ติดตามผู้นำ IS 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเช่นกัน ภายหลังถูกกองกำลังอิรักจับกุมตัวได้ และได้ยืนยันข่าวการได้รับบาดเจ็บขั้นสาหัสของอัล-บักห์ดาดี และฟาร์สยังมีการอ้างต่อว่า ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้วินิจฉัยว่า อัล-บักห์ดาดีจำเป็นต้องการได้รับการพักฟื้นร่วมหลายเดือน และทำให้มีการแต่งตั้งหนึ่งในผู้ช่วยของเขาขึ้นทำหน้าที่รักษาการแทน เพื่อรอให้อัล-บักห์ดาดีที่หายดีแล้ว สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ดังเดิม
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังจากที่ได้รับการรักษาตัวในตุรกีแล้ว ผู้นำก่อการร้าย IS ได้เดินทางต่อเพื่อไปลี้ภัยในลิเบีย ท่ามกลางการเกรงภัยถูกโจไล่ล่าจากกลุ่มชาติพันธมิตรที่มีสหรัฐฯเป็นชาติผู้นำ และหน่วยข่าวกรองอิรัก ที่เป็นเหมือนตาข่ายคอยดักจับ
โดยสื่ออิหร่านได้อ้างคำพูดแหล่งข่าวลิเบียที่กล่าวว่า “ในขณะที่ทุกคนกำลังตามหาตัวเขาอย่างหนักในอิรักและในซีเรีย แต่ไม่คาดคิดว่าผู้นำ IS จะหลบอยู่ในเมืองเซิร์ต ซึ่งเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่สุดท้ายในโลกที่เป็นแหล่งหลบภัยที่ปลอดภัยแน่นหนาที่สุดของอัล-บักห์ดาดี
ทั้งนี้ เดลีเมล์รายงานว่า ก่อการร้าย IS เริ่มปรากฎตัวครั้งแรกในลิเบียในปี 2014 เมื่อกลุ่มนักรบญิฮัดได้เดินทางกลับมาจากซีเรีย และรวมตัวอีกครั้งในเมืองท่าเบอร์นา (Derna) ประกาศให้ลิเบียตะวันออกกลายเป็นหนึ่งในจังหวัดภายใต้การปกครองของคอลิฟะห์
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญและแหล่งข่าวในลิเบียชี้ว่า ดูเหมือนว่าในเวลานี้ IS กำลังหาทางขยายขอบเขตการยึดครองจากเมืองเซิร์ตที่เป็นศูนย์กลาง
นอกจากนี้ข่าวการหลบเข้าไปพักฟื้นในลิเบียยังได้ล่วงรู้ไปถึงหูรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ โดยจากการรายงานของสื่ออิตาลี ANSA ในวันพุธ (9) พบว่า ลาฟรอฟได้แถลงว่า “ผมไม่ทราบว่า ผู้นำกลุ่ม IS อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี อยู่ในลิเบียหรือไม่ แต่ทางรัสเซียมีข่าวยืนยันว่า กลุ่ม IS และเซลก่อการร้ายของอัล-บักห์ดาดีอยู่ในเมืองเซิร์ต ซึ่งเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มไปแล้ว”
ทั้งนี้ ลาฟรอฟให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอิตาลีถึงการประกาศความร่วมมือระหว่างอิตาลีและรัสเซียในการเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ต่อต้านก่อการร้าย โดยทางมอสโกพร้อมจะช่วยเหลืออิตาลีในการทำให้ลิเบียกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ซึ่งทางลาฟรอฟย้ำว่า ทางมอสโกเข้าใจความสำคัญในปัญหาลิเบียต่ออิตาลี
อย่างไรก็ตาม 2 วันก่อนหน้าที่ลาฟรอฟประกาศความร่วมมือกับอิตาลีในการแก้ปัญหาลิเบีย ทางสหรัฐฯจากการรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สในวันจันทร์ (7) ได้ออกมายืนยันการเสียชีวิตของอาบู นาบิล( Abu Nabil) หรือชื่อ Wissam Najm Abd Zayd al Zubaydi แกนนำชาวอิรักกลุ่ม IS ในเมืองเดอร์นา ของลิเบีย จากการโจมตีทางอากาศ ซึ่งทางสหรัฐฯ อ้างว่าการสูญเสียคนสำคัญของกลุ่มในเมืองท่าแห่งนี้จะช่วยลดศักยภาพของกลุ่มก่อการร้าย IS ลงไปได้บ้าง
