เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปีเมื่อวันอังคาร (8 ธ.ค.) หลังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนเข้ามาซ้ำเติมตลาด ปัจจัยนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบแรง แต่ทองคำฟื้นเล็กน้อยจากแรงซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 14 เซ็นต์ ปิดที่ 37.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 47 เซ็นต์ ปิดที่ 40.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ช่วงต้นของการซื้อขายราคาน้ำมันเบรนต์ทรุดงไปต่ำกว่า 40 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2009 ก่อนจะปิดลบเล็กน้อย ทว่าก็เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาแตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี
ราคาน้ำมันแกว่งตัวสู่แดนลบอย่างรุนแรงในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังข้อมูลการค้าของจีนตอกย้ำถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ราคากระเตื้องขึ้นเล็กน้อยและปิดลบในกรอบแคบๆ จากสัญญาณที่เหล่าเทรดเดอร์เชื่อว่ามันลงสู่ระดับต่ำสุดแล้ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ขยับลงแรงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลการค้าของจีน
ดาวโจนส์ ลดลง 162.51 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.568.00 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.48 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,063.59 จุด แนสแดค ลดลง 3.57 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,098.24 จุด
บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่างเอ็กซอนปิดลบ 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวที่ฉุดดัชนีเอสแอนด์พีหนักหน่วงที่สุด ขณะที่ภาคพลังงานของเอสแอนด์พี ปิดลบในวันอังคาร (8 ธ.ค.) 0.95 เปอร์เซ็นต์ แต่หากนับรวมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ดิ่งลงไปมากกว่า 9.8 เปอร์เซ็นต์
ราคาพลังงานที่ตกต่ำมีขึ้นในขณะที่จีนเปิดเผยข้อมูลว่า ยอดนำเข้าของประเทศร่วงลงเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน โดยในเดือนพฤศจิกายนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 8.7 เปอร์เซ็นต์
การดิ่งลงของตลาดทุนโลกและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดันให้ราคาทองคำวานนี้ (8 ธ.ค.) ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10 เซ็นต์ ปิดที่ 1,075.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์