เอเจนซีส์ – ประชาชนทางใต้ของอินเดียในรัฐทมิฬนาฑูต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมใหญ่มาตลอดทั้งสัปดาห์ ที่เริ่มตั้งแต่เดือนที่แล้ว สืบเนื่องจากมรสุมประจำปีเข้า ล่าสุดพบผู้ป่วยระยะวิกฤตจำนวนมากถึง 18 คนต้องเสียชีวิตในห้อง ICU ของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในเมืองเจนไน(Chennai)หลังจากประสบปัญหาไฟฟ้าดับ และเครื่องปั่นไฟหยุดทำงาน เพราะสภาพฝนที่ตกหนักสาหัสสุดในรอบ 100 ปี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตนยอดรวมไม่ต่ำกว่า 269 คน ล่าสุดวันนี้(5) สนามบินเจนไน บริการรถไฟเริ่มเปิดใช้ตามปกติ ด้านนายกรัฐมนตรีอินเดียประกาศให้เงินเยียวยา 150 ล้านดอลลาร์
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(5)ว่า เจ้าหน้าที่รัฐทมิฬนาฑูรับเรื่องร้องเรียน ตรวจสอบการเสียชีวิตของคนไข้ขั้นวิกฤตจำนวนมากถึง 18 คนต้องจบชีวิตเนื่องจากการละเลยต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐในเมืองเจนไน (Chennai) เมืองเอกของรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งรัฐทางใต้แห่งนี้ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์เนื่องมาจากฝนตกอย่างหนัก
ทั้งนี้รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐทมิฬนาฑู เจ ราธาริชนาน (J. Radhakrishnan) ได้เปิดเผยว่า ผู้ป่วยทั้งหมด 18 รายที่เสียชีวิตอยู่ในห้อง ICU ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ประสบกับไฟฟ้าดับ ซึ่งส่งผลมายังเครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยหยุดการทำงาน
ด้านสภาพน้ำท่วมที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทหารอินเดียได้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ตามตึกต่างๆ และได้แจกจ่ายอาหารและน้ำสะอาด รวมไปถึงยารักษาโรคแก่คนเหล่านั้น
เดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันเสาร์(5)ยังมีประชาชนชาวอินเดียอีกหลายหมื่นคนยังคงต้องอาศัยอยู่ในเตนท์ผู้ประสบภัยเพื่อรอน้ำท่วมสูงให้แห้งก่อนกลับเข้าบ้าน
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้(5) พบหลายพื้นที่ในเมืองเจนไนสามารถมีกระแสไฟฟ้าใช้ได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ในส่วนสนามบินหลักซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเจนไนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และรวมไปถึงการให้บริการรถไฟ
บีบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นเพราะสภาพพายุมรสุมที่เข้ารัฐทมิฬนาฑูนั้นหนักที่สุดในรอบ 100 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ไม่ต่ำกว่า 269 คนนับตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งนักข่าวบีบีซีในพื้นที่รายงานว่า ประชาชนในเมืองเจนไนส่วนใหญ่ เป็นชนชั้นแรงงานและยากจน ต่างกล่าวว่าประสบปัญหาการสูญเสียครั้งใหญ่ และต้องการให้รัฐบาลอินเดียของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ลงมาช่วยเหลือโดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่คนในพื้นที่
โดยมีรายงานว่าโมดีได้รับปากจะจัดหางบประมาณเงินเยียวยาน้ำท่วมแก่รัฐทางใต้แห่งนี้จำนวน 150 ล้านดอลลาร์
บีบีซีรายงานต่อว่า และที่ผ่านมาจนปัจจุบันนี้ กองทัพอินเดียสามารถช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนได้ราว 7,000 คน ในขณะที่บ้านเรือนจำนวนมากยังคงต้องจมอยู่ใต้น้ำ และมีอีกจำนวนมากต้องติดอยู่ที่อาคารสูง
และพบว่ากองทัพอินเดียได้ตั้งเตนต์ผู้ประสบภัยจำนวน 25 หลัง รวมไปถึงตั้งโรงครัวสำหรับทำอาหารอีกจำนวนหนึ่ง
ไทม์ส สื่อสหรัฐฯ รายงานก่อนหน้านี้ว่้า น้ำท่วมใหญ่จากฝน 100 ปีทำให้ประชาชนร่วม 1 ล้านคนต้องย้ายออกจากที่อาศัยซึ่งจมอยู่ใต้น้ำ
โดย โจมี โจเซฟ (Jomey Joseph) หัวหน้าหน่วยงานช่วยเหลือภัยพิบัติ องค์กรบรรเทาทุกข์คาทอลิก (Catholic Relief Services)ประจำเมืองเจนไนได้เปิดเผยในวันศุกร์(4)จากเมือง ปุทุจเจรี(Pondicherry)ว่า "ฝนตกครั้งนี้หนักกว่าปกติมาก ผู้คนในพื้นที่ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน"
ทั้งนี้หน่วยงานบรรเทาทุกข์แห่งนี้ได้ช่วยประกอบอาหารให้กับผู้ประสบภัย รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์เครื่องป้องกันที่จำเป็นให้แก่ผู้คนในเขต Cuddalore และเขต Villapuram ซึ่งโจเซฟประเมินว่าในพื้นที่ทั้งสองนี้มีคนที่ต้องไร้บ้านไม่ต่ำกว่า 20,000 คน
และในการให้สัมภาษณ์กับไทม์ส โจเซฟยอมรับว่ายังไม่สามารถเข้าไปถึงตัวเมืองเจนไนได้ เพราะพื้นที่เกือบทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ และประกอบกับฝนตกหนักตลอดเวลา ทำให้ข้าวของบรรเทาทุกข์ที่จะนำติดตัวไปด้วยได้รับความเสียหาย