“รอช มาร์ก กาโบเร” คว้าชัยศึกเลือกตั้ง ปธน.บูร์กินาฟาโซ

เอเอฟพี / รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - คณะกรรมการการเลือกตั้งบูร์กินาฟาโซ ยืนยันในวันจันทร์ (30 พ.ย.) โดยระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีรอช มาร์ก กาโบเร เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ของดินแดนที่เคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้

คำแถลงล่าสุดของทางคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งบูร์กินาฟาโซยืนยันว่า อดีตนายกรัฐมนตรี รอช มาร์ก กริสติยง กาโบเร เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ ท่ามกลางความคาดหวังของหลายฝ่ายว่า การเลือกตั้งคราวนี้จะนำมาซึ่งสันติภาพและความสงบสุข หลังจากที่บูร์กินาฟาโซมีอันต้องเผชิญกับช่วงเวลา 1 ขวบปีแห่งความวุ่นวายทางการเมือง และความพยายามเข้าแทรกแซงของกองทัพ

รายงานข่าวที่มีการยืนยันล่าสุดระบุว่า กาโบเรซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้ประธานาธิบดีแบลส กองปาโอเร เป็นฝ่ายชนะการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ตั้งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 53.49 หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งในการเลือกตั้งรอบแรกและไม่จำเป็นต้องลงแข่งอีกในรอบชี้ขาด ขณะที่คู่แข่งสำคัญของเขาอย่างเซฟิแร็ง ดิยาเบรอ ที่มีดีกรีเป็นอดีตรัฐมนตรีคลัง ได้คะแนนตามมาห่างๆ เป็นอันดับที่ 2 ที่ร้อยละ 21.65

“เราจะต้องเร่งทำงานในทันที ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่ายในการรับใช้ประเทศนี้ ข้าพเจ้ามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะเปิดรับและสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของบูร์กินาฟาโซ” กาโบเร กล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารอแสดงความยินดีบริเวณด้านนอกสำนักงานใหญ่ของพรรคการเมืองของเขา

การเลือกตั้งประธานาธิบดีในบูร์กินาฟาโซครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี หลังจากที่ผู้นำเผด็จการที่ผูกขาดการครองอำนาจมายาวนานถึง 27 ปีอย่างประธานาธิบดีแบลส กองปาโอเร มีอันต้องยอมก้าวลงจากอำนาจ หลังถูกประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านในวิกฤตการเมืองเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

ด้านเซฟิแร็ง ดิยาเบรอ อดีตรัฐมนตรีคลังของบูร์กินาฟาโซในยุคทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้ ออกมากล่าวแสดงความยินดีกับชัยชนะของกาโบเร ก่อนที่จะมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ทั้งนี้ ปัญหาเร่งด่วนที่กาโบเรต้องเร่งแก้ไขหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีบูร์กินาฟาโซ คือ การเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกทองคำและฝ้ายรายใหญ่ของโลกแห่งนี้ หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเมืองเมื่อปีก่อน จนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของบูร์กินาฟาโซ ลดลงกว่าร้อยละ 0.3 ขณะที่มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากความวุ่นวายทางการเมืองในขวบปีที่ผ่านมา ถูกระบุว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ