เอเจนซีส์ - หลังจากที่กองกำลังอารักขาประธานาธิบดี RSP ได้ทำการยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการบูร์กินาฟาโซของประธานาธิบดีมิเชล คาฟันโด (Michel Kafondo)ในวันพฤหัสบดีล่าสุด (17) ล่าสุด องค์การสหภาพแอฟริกา หรือ AU ประกาศระงับการติดต่อทุกระดับกับบูร์กินาฟาโซในทันที และยังจะเดินหน้าคว่ำบาตรบรรดาแกนนำรัฐประหารบูร์กินาฟาโซ รวมไปถึงห้ามการเดินทาง หาก “คณะมนตรีแห่งชาติบูร์กินาฟาโซเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยึดอำนาจยังไม่คืนอำนาจให้กับรัฐบาลของคาฟันโดภายในวันที่ 22 กันยายนนี้
อัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้ (19) ว่า องค์การระหว่างประเทศ “สหภาพแอฟริกา” หรือ AU ได้ออกแถลงการณ์ 1 วันหลังเกิดรัฐประหารขึ้นในบูร์กินาฟาโซ เตือนให้ “คณะมนตรีแห่งชาติบูร์กินาฟาโซเพื่อประชาธิปไตย” หรือ the National Council for Democracy ที่ทำการรัฐประหาร เร่งคืนอำนาจในการเลือกตั้งให้กับประชาชนบูร์กินาฟาโซ หลังจากที่ทาง AU ได้หารือกับสภาสันติภาพและความมั่นคง (Peace and Security Council) หรือ PSCที่กรุงแอดดิส อาบาบา เอธิโอเปีย ก่อนหน้านี้
สื่อกาตาร์รายงานว่า กองกำลังอารักขาประธานาธิบดี RSP ที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบูร์กินาฟาโซ และขึ้นชื่อว่ามีความจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี แบลส กอมปาโอเร (Blaise Compaore)ที่ครองอำนาจมานานกว่า 27 ปี และในขณะนี้อยู่ในระหว่างการลี้ภัยทางการเมือง ได้บุกเข้าไปยังห้องประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลประธานาธิบดี มิเชล คาฟันโด (Michel Kafondo)ในวันพุธ(16) และทำการกักตัวทั้งคาฟันโด และนายกรัฐมนตรีไอแซก ซีดา (Isaac Zida)เพื่อต้องการล้มการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในวันที่ 11 ตุลาคมที่จะมาถึงนี้
โดยคณะรัฐประหารอ้างเหตุผลในการทำรัฐประหารว่า การเลือกตั้งใหญ่บูร์กินาฟาโซนี้ไม่ชอบธรรม เพราะกีดกันไม่ให้กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีกอมปาโอเรเข้าร่วม
และอัลญะซีเราะฮ์รายงานเพิ่มเติมต่อว่า ทางคณะรัฐประหารที่เกิดมาจาก RSP ได้แต่งตั้ง พล.อ.กิลเบิร์ต เดียนเดอร์ (Gilbert Diendere) ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองบูร์กินาฟาโซ และยังเป็นผู้ใกล้ชิดกับกอมปาโอเรอีกด้วย
ทั้งนี้ จากแถลงการณ์ของ AU ในวันศุกร์ (18) ทางองค์การสหภาพแอฟริกาได้ให้เวลาคณะปฎิวัติบูร์กินาฟาโซ 96 ชม. หรือกำหนดเส้นตายในวันที่ 22 กันยายนที่จะถึงนี้เท่านั้น ในการให้รัฐบาลรักษาการของคาฟันโดกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง หรือจะต้องถูกสหภาพแอฟริกาลงโทษด้วยการคว่ำบาตร ซึ่งรวมไปถึงการห้ามเดินทาง และการถูกยึดทรัพย์สิน
“ทางสหภาพแอฟริกาตัดสินใจลงโทษบูร์กินาฟาโซ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในทันที โดยการระงับการเข้าร่วมของบูร์กินาฟาโซต่อทาง AU ในทุกระดับความร่วมมือ” รายงานจากแถลงการณ์ของ AU และนอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังชี้ว่า สมาชิก RSP ที่มีส่วนในการจับกุมตัวผู้นำบูร์กินาฟาโซต้องรับผิดชอบทางกฎหมายต่อในสิ่งที่ได้กระทำ
ทั้งนี้ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และองค์การสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ประณามการยึดอำนาจบูร์กินาฟาโซล่าสุด ซึ่งเป็นประเทศที่ถือว่าเป็นตัวอย่างรูปแบบประชาธิปไตยทั่วเขตซาฮาราน้อย แอฟริกา หลังจากในปีที่ผ่านมาประชาชนบูร์กินาฟาโซต่างร่วมใจลงถนนประท้วง และสามารถโค่นอำนาจกอมปาโอเรได้สำเร็จ หลังจากที่พยายามจะหาทางที่จะต่ออำนาจออกไปเพื่อเป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย