xs
xsm
sm
md
lg

ตูนิเซียปิดพรมแดนติดต่อลิเบียแล้ว หลัง IS รับบึ้มรถบัสการ์ด ปธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033> รถยนต์หลายคันจอดต่อคิวอยู่บริเวณด่านชายแดนระหว่างประเทศตูนิเซียและลิเบียเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ในเมืองราส เจดีร์ หลังรัฐบาลตูนิเซียประกาศปิดพรมแดนระหว่างสองประเทศ หลังเหตุระเบิดโจมตีรถบัสรับส่งหน่วยอารักขาประธานาธิบดีกลางเมืองหลวงโดยกลุ่มไอเอส. -- Agence France-Presse/Fethi Nasri.</font></b>

เอเจนซีส์ - ตูนิเซียสั่งปิดพรมแดนติดกับลิเบีย ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์การก่อการร้ายของกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง รวมทั้งประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ หลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายบนรถบัสรับส่งหน่วยอารักขาประธานาธิบดีเมื่อวันอังคาร (24) ที่ไอเอสออกมาอวดอ้างความรับผิดชอบ

สภาความมั่นคงแห่งชาติที่มีประธานาธิบดีเบจี คาอิด เอสเซ็บซี เป็นประธาน ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (25) ระบุถึงการปิดพรมแดนติดกับลิเบียตั้งแต่เที่ยงคืน พร้อมเพิ่มการตรวจตราชายแดนทางทะเลและภายในสนามบิน รวมทั้งการปิดเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย

แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ทางการจะใช้มาตรการเร่งด่วนเกี่ยวกับบุคคลที่เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้งภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย รวมทั้งจะรับสมัครกองกำลังความมั่นคงเพิ่ม

ทั้งนี้ ทางการตูนิเซียเชื่อว่ามีพลเมืองหลายพันคนเดินทางไปยังลิเบีย อิรัก และซีเรีย เพื่อร่วมรบกับนักรบอิสลามหัวรุนแรง

ก่อนหน้านั้น กระทรวงคมนาคมประกาศเพิ่มการรักษาความปลอดภัยท่าเรือ และจะอนุญาตเฉพาะผู้โดยสารให้เข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ

ทางด้านกระทรวงมหาดไทยตูนิเซียไม่ได้ให้เหตุผลในการปิดพรมแดน เพียงแต่แถลงว่าระเบิดที่พบในการโจมตีล่าสุดในกรุงตูนิส ซึ่งมีน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัมและทำให้เจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีเสียชีวิต 12 รายนั้น เป็นระเบิดแบบเดียวกับที่ใช้ในเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตายที่นำเข้าจากลิเบียและเจ้าหน้าที่ตูนิเซียยึดได้เมื่อปีที่แล้ว

ลิเบียที่อุดมด้วยน้ำมันนั้นเผชิญความวุ่นวายและสงครามนับจากปี 2011 ที่ผู้นำเผด็จการ โมอัมเมอร์ กัดดาฟี ถูกโค่นล้มและเปิดทางให้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เข้าไปยึดเป็นที่มั่น

ในวันพุธ (25) ไอเอสประกาศว่า อาบู อับดอลเลาะห์ อัล-ตูนิสซี คือมือระเบิดฆ่าตัวตายที่โจมตีรถบัสรับส่งเจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีตูนิเซีย ซึ่งเกิดขึ้นห่างจากกระทรวงมหาดไทยไม่กี่ร้อยเมตร

กระทรวงสาธารณสุขตูนิเซียแถลงว่า นอกจากมีผู้เสียชีวิต 12 ราย เหตุการณ์นี้ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 20 คน แต่ทว่าไอเอสระบุยอดผู้เสียชีวิตถึง 20 ราย

หลังเหตุระเบิด เอสเซ็บซีประกาศห้ามประชาชนในตูนิสออกจากบ้านระหว่างเวลา 21.00-05.00 น. รวมทั้งประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ หลังจากเพิ่งยกเลิกไปไม่ถึงสองเดือน
.
<br><FONT color=#000033>เด็กหญิงชาวตูนิเซียวางดอกไม้ไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุโจมตีรถบัสลำเลียงหน่วยการ์ดของประธานาธิบดีตูนิเซีย กลางกรุงตูนิส เมื่อวันที่ 24 พ.ย. โดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้. -- Agence France-Presse/Mohamed Khalil.</font></b>
<br><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบซากรถบัสที่ถูกระเบิดโจมตีจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย. -- Agence France-Presse/Fetho Belaid.</font></b>
การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่แล้วมีขึ้นในเดือนมิถุนายน หลังจากมือปืนไอเอสคนหนึ่งสังหารหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 รายในเมืองซูซ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

นอกจากนั้น ในเดือนมีนาคมนักรบไอเอสสองคนยังบุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาร์โดในตูนิส และสังหารนักท่องเที่ยว 21 คนและตำรวจ 1 นาย และเมื่อไม่กี่วันมานี้ นักรบญิฮาดกลุ่มหนึ่งยังอ้างว่าตัดหัวคนเลี้ยงแกะคนหนึ่งในนามไอเอส เนื่องจากชายหนุ่มคนดังกล่าวแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของไอเอสต่อกองทัพตูนิเซีย

ทางด้านเจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีบางคนแสดงความกังวลว่า ทางการไม่มีมาตรการคุ้มครองพวกเขาจากกลุ่มก่อการร้ายอย่างเพียงพอ โดยตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นขณะที่รถบัสรับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ไปทำงานตามปกติ

เมื่อปีที่ผ่านมารถบัสรับส่งทหารถูกชายติดอาวุธสองคนซุ่มโจมตีทางตะวันตกเฉียงเหนือของตูนิเซีย ทำให้ทหารเสียชีวิต 5 นาย และช่วงกลางปีที่แล้ว ทหาร 15 นายถูกสังหารในแถบเทือกเขาชาอัมบี ใกล้พรมแดนแอลจีเรีย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์โจมตีที่รุนแรงที่สุดที่กองทัพตูนิเซียเคยประสบมา

เหตุระเบิดครั้งล่าสุดนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตูนิเซีย ซึ่งถือเป็นประเทศต้นแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยของภูมิภาค และเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่รัฐบาลเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขนานใหญ่ในเมืองหลวง รวมทั้งสั่งประจำการณ์กองกำลังความมั่นคงจำนวนมากผิดปกติ

ทำเนียบขาวประณามเหตุการณ์โจมตีล่าสุด และเสนอให้ความช่วยเหลือในการสอบสวนแก่ตูนิเซีย ขณะที่สมัชชาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยที่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของตูนิเซีย และอิยาด มาดานี เลขาธิการใหญ่องค์การความร่วมมืออิสลาม ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือของประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามที่ใหญ่ที่สุดของโลก ประณามการก่อการร้ายครั้งนี้อย่างรุนแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น