รอยเตอร์ - จีนจะเสริมสร้างความร่วมมือกับแอฟริกาในการต่อสู้กับลัทธิหัวรุนแรงภายหลังเหตุโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยฝีมือกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในมาลีที่คร่าชีวิตคนไป 19 ราย รวมถึงพลเมืองจีน 3 คน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของแดนมังกรกล่าวในวันนี้ (26 พ.ย.)
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเรียกร้องให้ตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมงานด้านความมั่นคงนอกพรมแดนจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่กลุ่มมือปืนบุกโจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของมาลีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน
พลเมืองจีน 3 คนที่ถูกสังหารในเหตุโจมตีโรงแรมนี้เป็นผู้บริหารจาก Railway Construction Corp บริษัทรัฐวิสาหกิจของจีน
“ขณะที่จีนเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือในทางปฏิบัติระหว่างจีนและแอฟริกาอยู่นั้น เราจะเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในการต่อต้านการก่อการร้ายและการต่อสู้กับลัทธิหัวรุนแรง” หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวในการปราศรัยต่อคณะทูตและผู้สื่อข่าว แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
หวังยังย้ำจุดยืนของจีนด้วยว่า ความช่วยต่อแอฟริกาจะไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง เมื่อวันพุธ (25) เจ้าหน้าอาวุโสของจีนรายหนึ่งกล่าวว่า จีนเตรียมที่จะประกาศแผนความช่วยเหลือใหม่แก่ชาติแอฟริกาเมื่อสีไปเยือนซิมบับเวและแอฟริกาใต้ในเดือนหน้า
สียังจะเป็นประธานร่วมในการประชุมซัมมิต 2 วันระหว่างจีนและชาติแอฟริกาในกรุงโจฮันเนสเบิร์กในเดือนหน้าด้วย
การที่ปักกิ่งมุ่งเน้นที่การค้าและการช่วยเหลือในแอฟริกาทำให้พวกเขาถูกกล่าวหาโดยตะวันตกว่าเพิกเฉยต่อความขัดแย้งและการละเมิดสิทธิในทวีปนี้
ความร่วมมือระหว่างจีนและแอฟริกาจะไม่ “ดำเนินไปในวิถีทางเดียวกับมหาอำนาจเก่า” หรือต้องเสียสละสิ่งแวดล้อมและผลประโยชน์ระยะยาวของแอฟริกา หวังกล่าว
“ใครก็ตามที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างจีนและแอฟริกาด้วยจุดประสงค์แอบแฝงทั้งที่เห็นความจริงนี้อยู่ตรงหน้าจะไม่มีพลังอำนาจใดๆ” หวังกล่าว “พวกเขาจะถูกบอยคอตต์โดยประชาชนชาวจีนและแอฟริกา”
มิตรภาพระหว่างจีนและแอฟริกาย้อนกลับไปเมื่อช่วงทศวรรษ 1950 ช่วงที่ปักกิ่งสนับสนุนขบวนการปลดแอกในทวีปนี้ที่ต่อสู้เพื่อล้มการปกครองของจักรวรรดิตะวันตก
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้มีแรงกดดันอีกครั้งต่อปักกิ่งให้เอาใจใส่ด้านความปลอดภัยกับพลเมืองกว่า 800,000 คนที่ถูกจ้างในต่างแดน โดยเฉพาะในแอฟริกาที่ซึ่งจีนได้กลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่รายหนึ่ง