เอเจนซีส์ - รายงานข่าวกรองอินเดียพบว่า กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ IS หลอกใช้ให้กลุ่มนักรบญิฮัดจากเอเชียใต้และแอฟริกาเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย แต่นักรบญิฮัดชาติอาหรับตะวันออกกลางได้ตำแหน่งระดับเจ้าหน้าที่และเงินเดือนสูง
เดลีเทเลกราฟรายงานวันนี้ (24 พ.ย.) ว่า รายงานจากสำนักงานข่าวกรองอินเดียล่าสุดพบว่า นักรบญิฮัดที่มาจากเอเชียใต้และแอฟริกาถูกมองว่า มีความสามารถในการรบน้อยกว่าเหล่านักรบจากประเทศในตะวันออกกลาง และทำให้คนเหล่านี้ถูกจัดให้เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย หรืออยู่แนวหน้าในการปฎิบัติหน้าที่ซึ่งต้องเสี่ยงต่อชีวิต
ทั้งนี้ ข่าวกรองอินเดียล่าสุดพบว่า ก่อการร้าย IS มักปฏิเสธหญิงที่มาจากเอเชียใต้และแอฟริกาเพื่อจะทำหน้าที่เป็น “jihadi brides” หรือ “เจ้าสาวของญิฮัด” เพราะสาธารณรัฐอิสลาม IS ซึ่งถือกำเนิดจากกลุ่มอาหรับเห็นว่า เผ่าพันธุ์ของพวกเขาสูงกว่า และยังกล่าวหาคนเหล่านี้ว่าเป็นผู้ทรยศต่อศาสนาอิสลาม หรือ Islam apostate
เดลีเทเลกราฟชี้ว่า ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากหน่วยงานข่าวกรองจากชาติอื่น และการเปิดเผยของบรรดาอดีตนักรบญิฮัด IS สัญชาติอินเดีย ซึ่งพบว่าภายในองค์กร IS นักรบญิฮัดที่มาจากประเทศในตะวันออกกลางจะได้รับตำแหน่งที่ดีในระดับเจ้าหน้าที่และเงินเดือนที่สูง ซึ่งต่างจากบรรดาญิฮัดที่เดินทางมาจากอินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ รวมไปถึงซูดาน และไนจีเรีย จะถูกส่งไปประจำสนามรบกองหน้าที่ต้องสละชีวิต
ทั้งนี้ ในรายงานข่าวกรองอินเดียพบว่า จากนักรบญิฮัดสัญชาติอินเดียทั้งหมด 23 คนที่ได้เข้าร่วมกับ IS มี 6 คนที่ต้องจบชีวิตไปแล้วในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูง
“นักรบญิฮัดจากเอเชียใต้และแอฟริกาจะถูกสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจจะมาพร้อมรถที่บรรทุกระเบิดจนเต็มคันรถ และสั่งให้ขับไปยังสถานที่แห่งหนึ่งใกล้เป้าหมายโจมตี และทำการโทรศัพท์เรียกคนที่ต้องการพบ ซึ่งหลังจากนั้นนักรบญิฮัดจากเอเชียใต้และแอฟริกาที่ปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้นรับทราบว่าจะได้รับการบอกกล่าวถึงภารกิจในรายละเอียดจากบุคคลนั้นที่จะออกมาพบ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าทันทีที่คนเหล่านี้เริ่มต้นโทรศัพท์ออกไป ระเบิดในรถที่ขนมาจะระเบิดขึ้นทันที” รายงานจากรายงานการข่าวกรองอินเดีย
เดลีทเลกราฟรายงานว่า รายงานการข่าวกรองล่าสุดถูกจัดทำขึ้น จากการเกรงจะเหตุก่อการร้ายเลียนแบบการโจมตีกรุงปารีสในอินเดีย ซึ่งเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในมุมไบในปี 2008 ที่สังหารไปถึง 164 คน และทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 308 คน