xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ประกาศเฝ้าระวังการเดินทางทั่วโลก ชี้กลุ่มก่อการร้ายมีแผนโจมตีในหลายภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกประกาศเฝ้าระวังการเดินทางทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ (23 พ.ย.) หลังเกิดเหตุวินาศกรรมในปารีส และเหตุกลุ่มติดอาวุธโจมตีโรงแรมในกรุงบามาโกของมาลี โดยอ้างถึง “ภัยคุกคามที่รุนแรงยิ่งขึ้น” จากเครือข่ายก่อการร้ายในหลายภูมิภาค

ขณะที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนกำลังเตรียมตัวออกท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าซึ่งจะมาถึงในวันพฤหัสบดีนี้ (26 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ทรัพย์สินของรัฐและเอกชนอาจตกเป็นเป้าหมายโจมตีของกลุ่มผู้ไม่หวังดี

“ข้อมูลที่เรามีอยู่ในขณะนี้บ่งบอกว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส), อัลกออิดะห์, โบโกฮารัม และเครือข่ายก่อการร้ายอื่นๆ ยังคงมีแผนที่จะก่อเหตุวินาศกรรมในหลายภูมิภาค” ข้อความเตือนที่ปรากฏบนเว็บไซต์กระทรวง ระบุ

ทั้งนี้ แม้จะไม่เอ่ยถึงกรณีที่นักรบไอเอสก่อเหตุสังหารหมู่ในเมืองหลวงฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 130 คน แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ย้ำว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงได้ลงมือก่อเหตุร้ายทั้งในฝรั่งเศส ไนจีเรีย เดนมาร์ก ตุรกี และมาลี

“ทางการเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการโจมตีขึ้นอีก ระหว่างที่สมาชิก (ไอเอส) ยังคงทยอยเดินทางกลับมาจากซีเรียและอิรัก... นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากบุคคลที่ไม่สังกัดเครือข่ายใด แต่ได้แรงบันดาลใจจากองค์กรก่อการร้าย จนตัดสินใจวางแผนก่อเหตุด้วยตนเอง”

ตำรวจฝรั่งเศสและเบลเยียมได้เปิดฉากปฏิบัติการไล่ล่าครั้งใหญ่ โดยมุ่งไปที่ตัว ซาลาห์ อับเดสลาม วัย 26 ปี หนุ่มมุสลิมเจ้าของบาร์ในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งเดินทางกลับจากปารีสไม่นานหลังเกิดเหตุวินาศกรรมขึ้น และยังคงหลบหนีลอยนวลอยู่

แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จับสัญญาณโทรศัพท์มือถือของ อับเดสลาม ได้ใกล้ๆ กับรถยนต์เช่าที่เขาจอดทิ้งไว้ หลังเกิดการสังหารหมู่ที่เขต 18 ทางตอนเหนือของปารีส หลังจากนั้นยังจับสัญญาณได้อีกครั้งที่ย่านชาตียง (Chatillon) ทางตะวันตกเฉียงใต้

เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบสิ่งที่ดูคล้าย “เข็มขัดระเบิด” ซึ่งถูกพบอยู่ในถังขยะในย่านมงทรูจ (Montrouge) ทางตอนใต้ของปารีส ไม่ไกลจากย่านชาตียงมากนัก

บราฮิม อับเดสลาม ซึ่งเป็นพี่ชายของซาลาห์ ได้กดระเบิดเข็มขัดฆ่าตัวตายที่หน้าคาเฟ่แห่งหนึ่ง พร้อมๆ กับที่เกิดการโจมตีอีกหลายจุดในกรุงปารีสเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ย. แต่แหล่งข่าวชี้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเข็มขัดที่พบในย่านมงทรูจเกี่ยวข้องกับชายคนน้องหรือไม่

ข้อสันนิษฐานหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ก็คือ ซาลาห์ อับเดสลาม ตั้งใจจะกดระเบิดฆ่าตัวตายที่เขต18 แต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน ซึ่งก็ยังเดาไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด

“บางทีเข็มขัดระเบิดอาจจะขัดข้องก็เป็นได้” แหล่งข่าวตำรวจกล่าว

รัฐบาลเบลเยียมประกาศยกระดับเฝ้าระวังก่อการร้ายขั้นสูงสุดในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันเสาร์ (21 พ.ย.) และได้ขยายเวลาเพิ่มไปอีก 1 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (23) ทว่า ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินและสถานศึกษาต่างๆ จะเปิดทำการตามปกติในวันพุธนี้ (25)

นายกรัฐมนตรี ชาร์ลส์ มิเชล แห่งเบลเยียม เตือนพลเมืองให้ตระหนักถึงภัยคุกคามที่ยังไม่หมดไป โดยระบุว่า สถานที่ชุมนุมชนอย่างห้างสรรพสินค้า และระบบโดยสารสาธารณะ ยังเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้าย

ทางการเบลเยียมได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสืบสวนเหตุวินาศกรรมปารีส เนื่องจากตำรวจฝรั่งเศสพบว่ามือระเบิด 2 คนอาศัยอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์

แหล่งข่าวชี้ว่า ซาลาห์ อับเดสลาม เคยเดินทางผ่านอิตาลีเมื่อเดือน ส.ค. พร้อมกับเพื่อนชื่อ อาเหม็ต ดาห์มานี แต่ขณะนั้นเขายังไม่ใช่ผู้ร้ายที่ทางการยุโรปตามล่า

ดาห์มานี ซึ่งเป็นชาวเบลเยียมเชื้อสายโมร็อกโก ถูกทางการตุรกีจับกุมได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานต้องสงสัยพัวพันการโจมตีปารีส

ขณะเดียวกัน อัยการเบลเยียมเผยว่าได้ตั้งข้อหาก่อการร้ายกับชายคนที่ 4 ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุวินาศกรรมในฝรั่งเศส ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 15 คนที่ตำรวจควบคุมตัวไว้เมื่อวันอาทิตย์ (22) ได้รับการปล่อยตัว

ทางการเบลเยียมยังปล่อยผู้ต้องสงสัย 2 ใน 5 คนที่ถูกจับเมื่อวานนี้ (23) ส่วนที่เหลือ 3 คนยังถูกควบคุมตัวเพื่อรอการสอบสวนต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น