รอยเตอร์ - อังกฤษจะลงทุนเพิ่มอีก 12,000 ล้านปอนด์ (ราว 652,000 ล้านบาท) ในด้านยุทธภัณฑ์ป้องกันประเทศตลอด 10 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมไปถึงเครื่องบินปราบเรือดำน้ำของโบอิ้งจำนวน 9 ลำ นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน กล่าวในวันนี้ (23 พ.ย.)
คาเมรอนจะแถลงแผนการด้านกลาโหมและความมั่นคงช่วง 5 ปีต่อรัฐสภาในวันนี้ (23) ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการทำให้แน่ใจว่าอังกฤษจะสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ได้รวมถึงการผงาดขึ้นมาของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) วิกฤตในยูเครน และการโจมตีทางไซเบอร์
“รัฐบาลนี้ได้ตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่าจะลงทุนในด้านความมั่นคงของเราและปกป้องความรุ่งโรจน์ของเรา” คาเมรอนเขียนในคำนำของแผนทบทวนนี้ ซึ่งถูกสำนักนายกรัฐมนตรีเผยแพร่ออกมาก่อนแล้ว
“เราไม่สามารถเลือกระหว่างการป้องกันภัยคุกคามจากรัฐกับความจำเป็นที่จะต้องตอบโต้ภัยคุกคามที่ไม่ขึ้นอยู่กับพรมแดนประเทศได้ ในวันนี้เราเผชิญกับทั้งสองอย่าง เราจึงต้องตอบสนองต่อทั้งสองอย่าง”
เขาจะประกาศว่า การใช้จ่ายด้านยุทธภัณฑ์ป้องกันประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 178,000 ล้านปอนด์ (ราว 9.6 ล้านล้านบาท) รวมถึงการลงทุนกับเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล พี-8 ของโบอิ้งจำนวน 9 ลำ ซึ่งจะช่วยปกป้องการป้องปรามนิวเคลียร์ของอังกฤษและเติมเต็มช่องว่างจากการตัดสินใจยกเลิกโครงการเครื่องบินสอดแนมนิมรอดในปี 2010
อังกฤษยังจะสร้าง “กองพลน้อยโจมตี” เคลื่อนที่เร็ว 2 กองพลภายในปี 2020 และยืดอายุของเครื่องบินขับไล่รุ่นไต้ฝุ่นออกไปอีก 10 ปีเพื่อสร้างกองบินเพิ่ม 2 กองบิน
ผู้นำอังกฤษเขียนในหนังสือพิมพ์เทเลกราฟฉบับวันนี้ (23) ว่า รัฐบาลจะลงทุนกับโดรนสอดแนมรุ่นใหม่ๆ และทำการลงทุนร่วมกับฝรั่งเศสในการพัฒนาอากาศยานต่อสู้ไร้นักบิน