เอพี/รอยเตอร์ – เมื่อวานนี้(20)องค์การค้าโลก WTO ได้มีมติตัดสินข้อพิพาทการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกในคดี “ป้ายเตือนโลมาปลอดภัยบนผลิตภัณฑ์ทูน่า” ของเม็กซิโก โดยชี้ว่า ข้อกำหนดในการติดฉลากเพื่อบอกให้รู้ว่ากระบวนการจับปลาทูน่านั้นจะไม่ทำอันตรายกับฝูงโลมาตามที่สหรัฐฯกำหนด ไม่ยุติธรรมกับผู้จับปลาชาวเม็กซิกัน
เอพีรายงานวันนี้(21) ในคำตัดสินคดี “ป้ายเตือนโลมาปลอดภัย” หรือ "dolphin-safe” ตามข้อกำหนดของสหรัฐฯนั้น องค์การค้าโลก WTO ได้มีมติตัดสินขั้นสุดท้ายในวันศุกร์(20) ชี้ให้ทางเม็กซิโกเป็นฝ่ายชนะ โดยอ้างถึงความไม่ยุติธรรมจะเกิดขึ้นต่อชาวประมงเม็กซิกัน รายงานจากแถลงการณ์คำพิพากษาความยาว 144 หน้า
ซึ่งรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า คำตัดสินในขั้นอุทธรณ์ขององค์การค้าโลกนี้ตอกย้ำกับคำตัดสินเดิมก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า หากยอมให้มีการติดป้ายเตือนนี้บนผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าของเม็กซิโก อาจจะเข้าข่ายกีดกันทางการค้า
ทั้งนี้องค์คณะตัดสินอุทธรณ์ของ WTO เมื่อวานนี้(20)ถือเป็นการสิ้นสุดของกระบวนการพิจารณาขององค์การค้าโลกว่าด้วยข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ และจะทำให้ทางเม็กซิโกสามารถใช้คำสั่งนี้ตอบโต้ทางการค้ากับสินค้าส่งออกของสหรัฐฯได้ หากทางสหรัฐฯไม่นำคำตัดสินนี้มาปฏิบัติในการค้าระหว่างสหรัฐฯเม็กซิโกเรื่องของผลิตภัณฑ์ทูน่า
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า คดีป้ายเตือนโลมาปลอดภัยนี้ถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของ WTO ตั้งแต่ปี 2009 โดยเม็กซิโกเป็นผู้ยื่นเรื่องเข้ามา โดยอ้างว่า เป็นการผิดกฎหมายการค้าระหว่างประเทศในการที่สหรัฐฯได้กำหนดให้ปิดฉลากระบุนี้ขึ้นกับสินค้าปลาทูน่าของเม็กซิโก ทั้งๆที่ผลิตภัณฑ์ทูน่าที่ทางเม็กซิโกผลิตนั้นเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนด ซึ่งได้กำหนดให้กระบวนการจับปลาทูน่าของเม็กซิโกนั้นต้องป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อโลมา ที่อาจติดอวนแหขึ้นมา
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ข้อขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกในเรื่องนี้เกิดขึ้นสาเหตุจาก ฝูงปลาทูน่าครีบเหลืองที่ว่ายไปพร้อมกับฝูงโลมาในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ซึ่งเป็นเขตการทำประมงของเม็กซิโก และมีการใช้เรือสปีดโป๊ทในการต้อนฝูงโลมา และใช้อวนลากขนาดใหญ่คลุมบริเวณผิวน้ำที่มีปลาทูน่าอยู่
และทำให้มาจำนวนนับล้านตัวต้องจบชีวิต ก่อนบรรดาองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมธรรมชาติจะตั้งมาตรฐานกฎเกณฑ์กำกับเพื่อช่วยชีวิตโลมาไม่ให้ต้องตกเป็นเหยื่อความโหดร้าย และส่งเรือผู้เชี่ยวชาญคอยสังเกตในเที่ยวการจับปลาทูน่าของชาวประมงเหล่านี้
แต่ทว่ารัฐบาลเม็กซิโกโต้ว่า ที่ผ่านมาทางเม็กซิโกสามารถทำให้ตัวเลขการเสียชีวิตของโลมาต่ำกว่าที่มาตรฐานกำหนดไว้แล้ว หลังจากที่มีการตั้งกฎเหล้านี้ขึ้นมา ต่ำกว่าที่กำหนดในการทำประมงที่สหรัฐฯกำหนดในเขตน่านน้ำของตนเองด้วยซ้ำ
นอกจากนี้รัฐบาลเม็กซิโกยังชี้ว่า มีแต่เขตน่านน้ำของทางเม็กซิโกเท่านั้นที่ถูกจับตา และต้องมีกฎห้ามอย่างเข้มงวดเมื่อเปรียบเทียบกับเขตน่านน้ำอื่นซึ่งปลาทูน่าที่จับได้นั้น ทางกัปตันของเรือที่ผ่านการอนุญาตจะใช้ดุลยพินิจตัวเองตัดสินในการทำให้การทำประมงนั้นไม่เป็นอันตรายต่อฝูงโลมาที่ติดมาด้วย
