เอเจนซีส์ – ตำรวจเซอร์เบียจับกุมชายต้องสงสัยคนหนึ่งในศูนย์ผู้อพยพเซอร์เบีย ซึ่งถือหนังสือเดินทางซีเรียที่มีข้อมูลชุดเดียวกับที่ตกข้างกายมือระเบิดฆ่าตัวตายปารีสบริเวณสนามกีฬา สตาด เดอ ฟรองซ์ ในวันศุกร์(13) คาดมือระเบิด อาจใช้เส้นทางเข้ายุโรปจากเกาะเลรอส(Leros) กรีซ ด้านนิก แฟกก์ (Nick Fagge)นักข่าวอังกฤษใช้เงิน 2,000 ปอนด์ในการซื้อพาสปอร์ตซีเรียปลอมข้อมูลชุดเดียวกันได้ภายใน 4 วัน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(17)ว่า ตำรวจเซอร์เบียได้จับกุมชายต่างชาติต้องสงสัยคนหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางปลอมที่มีรายละเอียดข้อมูลชุดเดียวกันกับหนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามกีฬา สตาด เดอ ฟรองซ์
โดยแหล่งข่าวตำรวจเซอร์เบียกล่าวกับเดอะการ์เดียนว่า เชื่อว่าหนังสือเดินทางทั้งสองเล่มเป็นหนังสือเดินทางปลอม แต่ย้ำว่าทางเซอร์เบียจะร่วมมือกับหน่วยสืบสวนฝรั่งเศสเพื่อหาต้นตอหนังสือเดินทางซีเรียปลอม
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุโจมตีปารีส ตำรวจฝรั่งเศสพบหนังสือเดินทางระบุชื่อผู้ถือ อาห์หมัด อัลโมฮัมหมัด (Ahmad Almohammad) วัย 25 ปี ใกล้กับร่างของ 1 ในกลุ่มนักรบญิฮัดที่โจมตีสนามกีฬา สตาด เดอ ฟรองซ์ ในวันศุกร์(13)
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2015 ชายต่างชาติคนหนึ่งถือหนังสือเดินทางที่มีข้อมูลเดียวกันนี้ เดินทางมาถึงเกาะ เลรอส(Leros)ของกรีซ และยื่นลงทะเบียนที่นี่ในฐานะผู้ลี้ภัย ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปยังเซอร์เบีย และโครเอเชีย ก่อนมุ่งหน้ามากรุงปารีส
แต่ในวันเสาร์(14)กลับเป็นชายต่างชาติอีกคนใช้หนังสือเดินทางเล่มที่ สองที่มีข้อมูลเดียวกัน ซึ่งทางตำรวจเซอร์เบียพบชายต่างชาติที่ใช้หนังสือเดินทางเล่มที่สองในศูนย์ผู้อพยพเปรโซโว ( Presovo) ของเซอร์เบีย หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเซอร์เบีย Blic รายงาน
แหล่งข่าวตำรวจเซอร์เบียเชื่อว่า หนังสือเดินทางทั้งสองเล่มซึ่งถูกใช้โดยมือระเบิดฆ่าตัวตายและชายผู้อพยพในศูนย์เปรโซโวนั้นล้วนแต่ “ปลอม” ทั้งสิ้น และพาสปอร์ตปลอมนี้สามารถจัดหาได้บริเวณพรมแดนซีเรีย – ตุรกี
และแหล่งข่าวยังให้ข้อมูลต่อว่า ตำรวจฝรั่งเศสได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเซอร์เบีย เพราะเซอร์เบียมีข้อมูลผู้อพยพทุกคนที่เข้ามาในเซอร์เบียเพื่อผ่านเข้าไปยังยุโรปชั้นใน
นอกจากนี้หน่วยงานความมั่นคงเซอร์เบียยังร่วมมือกับบอสเนียและสาธารณรัฐเซิร์ปสกาในการสอดส่องพฤติกรรมที่ต้องสงสัยของผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย IS ในบริเวณหมู่บ้านกอร์นจา มาโอกา( Gornja Maocha) ของบอสเนีย
“อาจจะมีความเชื่อมโยงการส่งผู้ก่อการร้ายเข้าไปในกรุงเวียนนา และไปที่อื่นหลังจากนั้น และเรารู้ว่าที่เป็นเส้นทางที่สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายใช้” แหล่งข่าวตำรวจเซอร์เบียให้ข้อมูลกับเดอะการ์เดียนเพิ่มเติม
แต่อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสยังไม่ยืนยันว่า ลายนิ้วมือของชายชาวต่างชาติใช้ชื่ออัลโมฮัมหมัดในการลงทะเบียนบนเกาะเลรอส กรีซ นั้นตรงกับลายมือของกลุ่มก่อการร้ายจู่โจมปารีส หรือไม่
ซึ่งหลังจากที่อัลโมฮัมหมัดผ่านเข้ายุโรปจากกรีซแล้ว เขาเดินทางต่อเข้าไปยังมาเซโดเนียในวันที่ 7 ตุลาคม และได้ลงทะเบียนอีกครั้งที่ศูนย์ผู้อพยพเปรโซโว เซอร์เบียซึ่งเป็นที่ชายผู้นี้ขอลี้ภัย และในวันที่ 8 ตุลาคม ชายผู้นี้เดินทางเข้าโอปาโตแวค( Opatovac) โครเอเชียซึ่งได้ลงทะเบียนที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน
โดยมีรายงานว่าชายผู้นี้อยู่ในโครเอเชียนาน 6 ชม.ก่อนจะเดินทางต่อเข้าไปยังฮังการี และออสเตรีย
สื่อรัฐบาลเซอร์เบีย RTS รายงานว่า สโลวาเนียและออสเตรียตัดสินใจร่วมกันในการปิดพรมแดน ซึ่งสื่อ RTSรายงานในวันจันทร์(16)ว่า สำนักงานกลางสนธิกำลังความมั่นคงเซอร์เบียมีกำหนดจะหารือสถานการณ์บริเวณพรมแดนในค่ำวันนี้(17)
ซึ่งสื่อข่าวออนไลน์กรีซโปรโตเธมา( Protothema) ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า พบหลักฐานตั๋วเรือเฟอร์รีกรีซที่มีชื่อ อัลโมฮัมหมัด มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามกีฬา สตาด เดอ ฟรองซ์
โดยพบว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายเดินทางเข้ายุโรปผ่านกรีซพร้อมกับชายอีกคนภายใต้ชื่อ โมฮัมเหม็ด อัลมูห์เหม็ด( Mohammed Almuhmed) หลังจากที่เรือที่คนคู่นี้โดยสารเกิดล่ม ซึ่งสื่อกรีซเชื่อว่า อัลมูห์เหม็ดที่เดินทางมาพร้อมกับมือระเบิดฆ่าตัวตายนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีปารีสด้วยเช่นกัน
และสื่อกรีซรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยกรีซได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า เจ้าของพาสปอร์ตที่ใช้ก่อเหตุนั้นผ่านเข้าอียูทางกรีซ โดยลงทะเบียนที่เกาะเลรอสจริง
ในขณะที่เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานล่าสุดว่า นิก แฟกก์ (Nick Fagge)นักข่าวของเดลีเมลได้ใช้เงิน 2,000 ปอนด์ในการซื้อหนังสือเดินทางซีเรียปลอม ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปซื้อหนังสือเดินทางปลอมพร้อมกับใบอนุญาตขับขี่บริเวณพรมแดนตุรกีในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
และเป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่าข้อมูลของหนังสือเดินทางที่นักข่าวชาวอังกฤษซื้อนั้นเป็นข้อมูลชุดเดียวที่ปรากฎบนหนังสือเดินทางของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ตกอยู่ข้างกายของคนร้าย
เดลีเมลชี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านเอกสารปลอมประจำสำนักงานตำรวจชี้ว่า หนังสือเดินทางซีเรียปลอมนี้ “ดูเหมือนของจริงมาก”
สื่ออังกฤษรายงานว่า ตัวเล่มหนังสือเดินทางซีเรียเป็นของจริง ซึ่งคาดว่าจะถูกขโมยออกมาจากซีเรีย แต่ทว่าในหนังสือเดินทางนี้ยังไม่มีการระบุข้อมูลผู้ถือ ซึ่งผู้ปลอมเอกสารได้พิมพ์ภาพนักข่าวอังกฤษ ตลอดจนข้อมูลส่วนตัวที่สร้างใหม่ลงบนตัวหนังสือเดินทางฉบับจริงนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลของชายชาวซีเรียที่เสียชีวิตไปแล้ว
และผู้ทำหนังสือเดินทางปลอมให้กับแฟกก์ยังเตือนในเดือนกันยายนว่า กลุ่มก่อการร้าย IS ใช้หนังสือเดินทางปลอม และปะปนไปกับกลุ่มผู้อพยพมุ่งหน้าเข้าสู่ยุโรป
