เอเจนซีส์ - ตำรวจฝรั่งเศสเปิดปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายครั้งใหญ่ช่วงก่อนรุ่งสางวันนี้ (16 พ.ย.) โดยยกกำลังบุกตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยทั่วประเทศเกือบ 170 แห่ง จับกุมผู้ต้องหา 23 คน และสั่งให้อีกกว่า 100 คนต้องอยู่แต่ภายในที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ตามการแถลงของรัฐมนตรีมหาดไทย แบร์กนารด์ กาเซอเนิฟ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมานู เอล วาลส์ ก็ยืนยันว่าเหตุโจมตีหฤโหดนองเลือด 129 ศพในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ (13) ดำเนินการและวางแผนจากพื้นที่ควบคุมของกลุ่มไอเอสในซีเรีย พร้อมกับเตือนว่าทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเชื่อว่า กำลังมีการวางแผนเปิดการโจมตีแบบก่อการร้ายครั้งใหม่ทั้งในฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรป เวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสระบุชื่อของคนร้ายผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม และสื่อหลายกระแสอ้างว่าตัวการใหญ่เบื้องหลังการก่อการร้ายคราวนี้ เป็นคนสัญชาติเบลเยียมชื่อ อับเดลฮามิด อาบาอูด
“เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับภัยคุกคามของการปฏิบัติการก่อการร้ายแบบใหม่ๆ กันไปอีกยาวนาน พวกผู้ก่อการร้ายอาจจะนำเอาวิธีโจมตีใหม่ๆ เข้ามาใช้ ถึงแม้การโจมตีบางครั้งอาจถูกสกัดขัดขวางได้สำเร็จ … การปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายก็อาจจะเกิดขึ้นซ้ำในสัปดาห์หน้าหรือในเดือนหน้า และเราจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเรื่องเหล่านี้” นายกรัฐมนตรีวาลส์กล่าว ระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุอาร์ทีแอล ของฝรั่งเศสวันนี้ (16)
“เราจะรับมือตอบโต้ระเบิดด้วยระเบิด” วาลส์บอก “เราจะลงมือปฏิบัติการ, เราจะโจมตี และเราจะเป็นผู้ชนะ”
เขากล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องต่อสู้คัดค้านพวกที่กำลังแพร่กระจายความเกลียดชังในฝรั่งเศส ไม่ว่าพวกนั้นจะมีความเชื่อทางศาสนาแบบไหน แต่ก็จะต้องให้ความเคารพค่านิยมที่เป็นค่านิยมร่วม
“พวกที่เที่ยวเทศนาสั่งสอนความเกลียดชังเป็นจำนวนมากทีเดียว ได้ถูกเนรเทศออกไปจากประเทศนี้แล้ว … และเราจะกระทำเช่นนี้ต่อไปอีก เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องติดตามเล่นงานพวกที่เที่ยวแพร่กระจายความเกลียดชัง … คุณสามารถที่จะเป็นคริสเตียน, เป็นยิว, หรือเป็นมุสลิม แต่ว่าจะต้องเคารพค่านิยมที่เป็นค่านิยมร่วม เราจำเป็นที่จะต้องเข้มแข็งและสามัคคีกัน และดำเนินการต่อสู้คัดค้านการก่อการร้ายต่อไป เพราะเรานั้นเป็นประชาชนที่เข้มแข็งและหนักแน่นไม่ยอมหวั่นไหว” เขาระบุ
วาลส์ยังยืนยันข่าวที่ว่าตำรวจออกปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในช่วงก่อนรุ่งสางของวันนี้ (16)
ปฏิบัติการช่วงก่อนรุ่งสางทั้งตรวจค้น-จับกุม-ยึดอาวุธ
รัฐมนตรีมหาดไทยกาเซอเนิฟ ยืนยันว่า ในคืนวันอาทิตย์ (15) ต่อเนื่องถึงก่อนรุ่งสางวันนี้ (16) ตำรวจฝรั่งเศสได้ออกปฏิบัติการตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยทั่วประเทศร่วมๆ 170 แห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัย 23 คน และสั่งควบคุมอีกกว่า 100 คนให้อยู่แต่ภายในที่อยู่อาศัย
เขาระบุด้วยว่าสามารถยึดอาวุธได้รวม 31 ชิ้น
ก่อนหน้านี้สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า ในบรรดาจุดที่ถูกบุกตรวจค้นคราวนี้ มีทั้งย่านโบบิญี อันเป็นชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงปารีส ขณะที่เมืองลีอง เมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีจุดที่ถูกบุกตรวจค้นรวม 13 จุด ซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย และยึด “คลังแสงอาวุธ” ซึ่งมีทั้งเครื่องยิงลูกจรวด 1 ชุด, ปืนอาก้า 1 กระบอก, เสื้อกันกระสุน, ปืนสั้น, และเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการสู้รบ
ตำรวจยังบุกตรวจค้นหลายจุดในเมืองตูลุส ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส โดยที่สำนักงานอัยการท้องถิ่นระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 3 คน
ที่เมืองเกรอน็อบล์ เมืองแถบเทือกเขาแอลป์ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ถูกรวบตัวอย่างน้อย 6 คน และตำรวจยังยึดปืนหลายกระบอกพร้อมเงินอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ตำรวจมีอำนาจเพิ่มมากขึ้นภายใต้ภาวะฉุกเฉิน ซึ่งทางการประกาศใช้หลังเกิดเหตุโจมตีในปารีส
ระบุชื่อคนร้ายได้เพิ่มอีก 2 รวมเป็น 7
บีบีซีนิวส์รายงานว่า ในวันนี้ (16) อัยการปารีสได้ระบุชื่อคนร้ายซึ่งก่อเหตุโจมตีปารีสเมื่อวันศุกร์ (13) เพิ่มขึ้นอีก 2 คน เมื่อรวมกับอีก 5 คนที่ทราบก่อนหน้านี้ก็เป็น 7 คนแล้ว โดยในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 5 คน
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (15) ทางการฝรั่งเศสและทางการเบลเยียมยังได้เผยแพร่ภาพถ่ายของ ซาลาห์ อับเดสลาม พร้อมออกหมายจับสากลชายวัย 26 ปีผู้นี้ โดยระบุว่าเขาเป็นคนที่มีอันตรายมาก และเตือนประชาชนอย่าได้เข้าไปแทรกแซงโดยตรง ถ้าพวกเขาพบเห็นชายผู้นี้
อัยการปารีสระบุชื่อผู้ก่อเหตุโจมตีปารีส 2 คนล่าสุดว่า คือ อาหมัด อัล-โมฮัมหมัด และ ซามี อามิมัวร์
อัล-โมฮัมหมัด เป็นชื่อในพาสปอร์ตซีเรียซึ่งพบในร่างของคนร้ายที่เข้าโจมตีผู้หนึ่ง ถึงแม้ยังไม่มีการพิสูจน์ยืนยันว่าหนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ และดังนั้นจึงยังไม่อาจระบุอัตลักษณ์ของชายผู้นี้ได้อย่างมั่นใจ แต่สิ่งที่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้แล้วก็คือลายนิ้วมือของเขาตรงกันกับที่ทางการกรีซเก็บไว้ ภายหลังเขาเดินทางมาถึงพร้อมๆ กับพวกผู้อพยพจำนวนมาก ที่เกาะเลรอส ของกรีซในเดือนตุลาคมปีนี้
สำหรับ อามิมัวร์ นั้น เมื่อปี 2012 เขาถูกตั้งข้อหา “สมรู้ร่วมคิดเพื่อกระทำการก่อการร้าย” จากการวางแผนจะเดินทางไปก่อการโจมตีในเยเมน ทว่าถูกจับกุมเสียก่อน เขาถูกสั่งให้ต้องรายงานตัวต่อฝ่ายตุลาการในระหว่างที่ถูกสอบสวน แต่หลังจากเขาหลบหนีทิ้งประกันไปในปี 2013 แล้ว เขาก็ออกหมายจับสากล มีรายงานว่าในจำนวนพวกที่ถูกจับกุมช่วงก่อนรุ่งสางวันนี้นั้น มีอยู่ 3 คนที่เป็นญาติของเขา
สำหรับคนร้ายซึ่งถูกระบุชื่อและเสียชีวิตแล้วจำนวน 5 คน ได้แก่
**บราฮิม อับเดสลาม วัย 31 ปี ถูกระบุว่าเป็นคนร้ายซึ่งเสียชีวิตใกล้ๆ หอแสดงดนตรีบาตากล็อง
**โอมาร์ อิสมาอิล มอสเตไฟ วัย 29 ปี เป็นคนจากชานกรุงปารีส เสียชีวิตในการโจมตีบาตากล็อง
**บิลัล ฮัดฟี วัย 20 ปี ถูกระบุว่าเป็นคนร้ายที่ตายที่สนามกีฬา สตาด เดอ ฟรองซ์
**อาหมัด อัล-โมฮัมหมัด วัย 25 ปี จากจังหวัดอิบลิบ ประเทศซีเรีย เสียชีวิตที่สตาด เดอ ฟรองซ์ (ยังไม่มีการพิสูจน์ยืนยัน)
**ซามี อามิมัวร์ วัย 28 ปี จากชานกรุงปารีส มือระเบิดฆ่าตัวตายที่บาตากล็อง
ยังมีคนร้ายอีก 2 คนซึ่งเสียชีวิตขณะก่อเหตุ และยังไม่ได้รับการระบุชื่อ
นอกจากนั้นมีคนร้าย 2 คนที่ทางการระบุชื่อแล้ว โดยยังไม่ได้เสียชีวิต ได้แก่
**โมฮัมเหม็ด อับเดสลาม ซึ่งมีรายงานว่าถูกจับกุมในเบลเยียม
**ซาลาห์ อับเดลสลาม วัย 26 ที่ตำรวจติดตามไล่ล่าอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ซาลาห์ อับเดลสลาม เป็นชายที่ตำรวจระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญคนหนึ่ง เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้เช่ารถยนต์โฟล์คสวาเกน โปโล คันที่ถูกพบทิ้งไว้ใกล้ๆ กับหอแสดงดนตรีบาตากล็อง ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตไปถึง 89 คน เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสระบุว่า เมื่อวันเสาร์ (14) เขาอยู่ในรถคันหนึ่งพร้อมกับชายอีก 2 คนที่ใกล้ๆ พรมแดนเบลเยียม เมื่อเขาถูกตำรวจสั่งให้หยุดรถ แต่หลังการตรวจค้นแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็ได้รับการปล่อยตัวไป
เครือข่ายเบลเยียม และข่าวสับสนเรื่องจับกุม “ซาลาห์ อับเดสลาม”
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การสืบสวนสอบสวนเวลานี้ จุดสำคัญจุดหนึ่งอยู่ที่เบลเยียม รัฐมนตรีมหาดไทย แบร์กนารด์ กาเซอเนิฟ ของฝรั่งเศส กล่าวในวันนี้ (14) ว่า การโจมตีปารีส “มีการเตรียมการกันในต่างประเทศ และทีมหนึ่งที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นพวกที่ปักหลักอยู่ในดินแดนเบลเยียม โดยที่น่าจะได้ความช่วยเหลือจาก … ผู้สมรู้ร่วมคิดในฝรั่งเศส”
มีพี่น้อง 3 คนชาวเบลเยียมซึ่งเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องพัวพันกับการก่อเหตุโจมตีคราวนี้ โดยที่คนหนึ่งถูกจับกุม, คนหนึ่งระเบิดตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว, และอีกคนหนึ่งคือที่ถูกตำรวจออกหมายจับสากลพร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายของเขา คือ ซาลาห์ อับเดสลาม ซึ่งน่าจะกำลังหลบหนีอยู่
ทั้ง 3 พี่น้องพำนักอยู่ในเมืองหลวงบรัสเซลส์ ในย่านโมเลนบีก ซึ่งเป็นย่านผู้อพยพโกโรโกโส ที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้วหลายราย
ในวันนี้ (16) ก็มีการปฏิบัติการใหญ่ครั้งใหม่เปิดฉากขึ้นอีกที่โมเลนบีก ซึ่งถูกมองว่าเป็นแหล่งส้อมสุมบ่มเพาะพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง
ปฏิบัติการคราวนี้ก่อให้เกิดความสับสน โดยในขณะที่บางสื่อ เป็นต้นว่า สถานีวิทยุอาร์ทีแอล รายงานว่า ซาลาห์ อับเดสลาม ถูกจับกุมแล้ว แต่ทาง อาร์ทีบีเอฟ ของเบลเยียมกลับอ้างคำพูดของอัยการส่วนกลางผู้หนึ่งที่บอกว่า ชายซึ่งถูกจับกุมในโมเลนบีก ไม่ใช่บุคคลผู้นี้
ในเวลาต่อมา อีริค ฟาน เดอร์ ซิปต์ โฆษกของสำนักงานอัยการเบลเยียมแถลงว่า การปฏิบัติการตรวจค้นที่โมลีนบีก ได้สิ้นสุดลงแล้วด้วยผลลัพธ์เป็นลบ ไม่มีการจับกุมผู้ใดทั้งสิ้น
“อับเดลฮามิด อาบาอูด” ถูกระบุเป็นตัวการใหญ่
สำนักข่าวเอพีอ้างคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสรายหนึ่งระบว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นตัวการใหญ่ก่อเหตุโจมตีปารีสคราวนี้ คือชาวเบลเยียม ชื่อ อับเดลฮามิด อาบูอูด ซึ่งว่ากันว่ามีความเกี่ยวข้องพัวพันกับการโจมตีขบวนรถไฟความสูงที่มุ่งหน้าสู่กรุงปารีส และโบสถ์คริสต์ในพื้นที่ปารีสแห่งหนึ่งเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ของปีนี้ ทว่าถูกขัดขวางกระทำการไม่สำเร็จ
เอพีระบุว่าเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสผู้นี้เป็นผู้มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับการสอบสวนคดีนี้ แต่ไม่ได้รับมอบอำนาจให้ออกมาพูดกับสาธารณชนโดยตรง
สำนักข่าวแห่งนี้บอกว่า อาบูอูด เป็นลูกของผู้อพยพชาวโมร็อกโก ซึ่งเติบโตขึ้นในย่านโมเลนบีก ของกรุงบรัสเซลส์ เขาเข้าศึกษาในโรงเรียนมัธยมปลายซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ในเวลาต่อมาก็ไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย กลายเป็นนักรบญิฮัดผู้มีชื่อเสียงลือเลื่องในทางเลวร้ายที่สุดของเบลเยียม
ทางด้านสื่อฝรั่งเศสเป็นต้นว่า สถานีวิทยุอาร์ทีแอล ก็ได้อ้างพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านการสอบสวนกล่าวว่า ผู้ที่ต้องสงสัยเป็นตัวการใหญ่ก่อเหตุโจมตีปารีสคราวนี้คือ อับเดลฮามิด อาบาอูด วัย 27 ปี ซึ่งมีฉายาเป็นที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า “นักฆ่าสัตว์” ของกลุ่มรัฐอิสลาม กล่าวกันว่าเขาเป็นคนสัญชาติเบลเยียมซึ่งได้ทำการประหารชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก