เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ระบุในวันจันทร์ (16 พ.ย.) ว่าหน่วยงานความมั่นคงของอังกฤษได้ยับยั้งการก่อเหตุร้ายไปประมาณ 7 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน
หน่วยงานข่าวกรองและความมั่นคงของเราได้ยับยั้งสิ่งที่น่าจะเป็นการโจมตีได้ 7 ครั้ง ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่ว่าเป็นแผนการโจมตีที่มีขนาดเล็กกว่าที่เกิดกับฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์ เขาบอกกับสถานีวิทยุบีบีซี เรดิโอ 4 จากตุรกี
“เราได้ทราบว่าพวกกลุ่มปฏิบัติการในซีเรียนั้นเป็นกลุ่มคนหัวรุนแรงในประเทศของเราเอง ซึ่งเป็นไปได้ที่จะมีการส่งคนกลับมาก่อเหตุโจมตี มันเป็นสิ่งที่เราเคยได้รับการเตือนมาแล้ว” คาเมรอนกล่าว
คาเมรอนยังบอกด้วยว่า มีสัญญาณความหวังจากการพูดคุยเรื่องซีเรียเมื่อวันเสาร์ที่เวียนนา เกี่ยวกับความคืบหน้าในการรับมือกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
“คุณไม่สามารถจัดการกับกลุ่มรัฐอิสลามได้จนกว่าจะแก้ปัญหาการเมืองในซีเรีย หลังจากนั้นจึงจะบั่นทอนและทำลายองค์กรก่อการร้ายนี้ได้อย่างถาวร” เขากล่าว
สื่อผู้ดีรายงานในวันจันทร์ว่า อังกฤษจะรับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและความมั่นคงเข้ามาเพิ่มอีก 1,900 ราย เพื่อรับมือกับภัยก่อการร้าย หลังเกิดเหตุโจมตีปารีส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 ราย
จากการรายงานของเดอะการ์เดียน นี่จะเป็นการใช้จ่ายงบประมาณด้านความมั่นคงของอังกฤษที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดในลอนดอนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2005 โดยทางผู้นำรัฐบาลอังกฤษจะประกาศมาตรการนี้ในวันจันทร์
“ผมได้ตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่เราจำเป็นต้องใช้ในการต่อสู้กับภัยก่อการร้าย เพราะการปกป้องประชาชนชาวอังกฤษคือหน้าที่ลำดับแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี” การ์เดียนรายงานสคริปต์คำพูดที่คาเมรอนจะกล่าว
“นี่คือการต่อสู้แห่งยุค ที่เราต้องใช้กำลังคนมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับผู้ที่จะทำลายเราและคุณค่าของเรา”
จากข้อมูลของเดอะการ์เดียน และไฟแนนเชียลไทม์ การรับเจ้าหน้าที่เพิ่มครั้งนี้ จะทำให้หน่วยข่าวกรอง MI5, MI6 และ GCHQ มีคนเพิ่มขึ้นประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยด้านการบินที่จะเข้าประเมินสนามบินหลายแห่งทั่วโลก อันเป็นการตอบสนองต่อเหตุเครื่องบินรัสเซียตกที่อียิปต์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทางรัฐบาลอังกฤษสงสัยว่าอาจร่วงเพราะถูกติดตั้งระเบิด
