บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - พบปืนอาก้าจำนวนมากในรถยนต์ซึ่งถูกทิ้งเอาไว้คันหนึ่ง ที่เชื่อกันว่าเป็นพาหนะของกลุ่มคนร้ายบางคนซึ่งปฏิบัติการโจมตีอย่างโหดเหี้ยมนองเลือดในกรุงปารีส แหล่งข่าวด้านยุติธรรมของฝรั่งเศสหลายรายเปิดเผยในวันนี้ (15 พ.ย.)
รถยนต์ “เซียต” สีดำคันดังกล่าว ถูกพบทิ้งเอาไว้ในย่านมงเทรย ชานเมืองด้านตะวันออกของปารีสในวันอาทิตย์ (15) ซึ่งดูจะบ่งชี้ให้เห็นว่าคนร้ายที่ก่อการโจมตีบางส่วนอาจจะหลบหนีไปได้
ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (14) ทางการฝรั่งเศสสามารถระบุชื่อคนร้ายคนแรกในจำนวน 7 คนซึ่งตายไปในระหว่างการปฏิบัติการโจมตีเมื่อวันศุกร์ (13) โดยคนร้ายผู้นี้ถูกระบุตัวตนว่าคือ โอมาร์ อิสมาอิล มอสเตฟาอี อายุ 29 ปี หลังจากเจ้าหน้าที่พบนิ้วมือที่ขาดนิ้วหนึ่งของเขาในหอแสดงดนตรีบาตาแคลน ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตไปมากที่สุด ถัดจากนั้นบุคคลที่ใกล้ชิดกับมอสเตฟาอีจำนวน 6 คน รวมถึงบิดาและพี่ชายของเขาด้วย ก็ถูกตำรวจควบคุมตัว
ขณะนี้ฝรั่งเศสกำลังอยู่ระหว่างช่วงไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วัน ให้แก่ผู้คน 129 คนซึ่งถูกสังหารในการโจมตีคราวนี้
พิธีมิสซาซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับสมาชิกในครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิต, ผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีจำนวนราว 350 คน, ตลอดจนผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ จะมีขึ้นที่มหาวิหารนอทระดัม ในกรุงปารีสช่วงค่ำวันอาทิตย์
เหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์ (13) ซึ่งพวกหัวรุนแรงกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ประกาศอ้างความรับผิดชอบนั้น กลุ่มคนร้ายที่น่าจะมีด้วยกัน 3 ทีม ได้ใช้อาวุธปืนกราดยิง ตลอดจนใช้ระเบิดฆ่าตัวตาย เข้าโจมตีหอแสดงดนตรี, สนามกีฬาแห่งสำคัญ, ตลอดจนร้านอาหารและบาร์หลายแห่งในนครหลวงของฝรั่งเศส โดยที่มีรายงานว่าคนร้ายบางคนระบุว่า การโจมตีนี้เป็นการตอบโต้ที่ฝรั่งเศสถล่มโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มไอเอสในซีเรีย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ ของฝรั่งเศส ประกาศว่า แดนน้ำหอมจะยังคงถล่มโจมตีพวกไอเอสในซีเรียต่อไป พร้อมกับพูดถึงกลุ่มนี้ว่า เป็นศัตรูที่มีการรวมกลุ่มจัดองค์กรอย่างดีมาก
ทางด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ได้ยกเลิกแผนการของเขาที่จะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมซัมมิตกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี 20) ซึ่งมีขึ้นในวันนี้ (15) ที่ประเทศตุรกี และขณะนี้กำลังพบปะหารือกับผู้นำทางการเมืองฝ่ายต่างๆ เพื่อปรึกษาอภิปรายเกี่ยวกับวิกฤตการณ์คราวนี้
โยงใยไปถึงเบลเยียม?
รถยนต์ “เซียต” คันที่พบในย่านมองเทรย เชื่อกันว่าเป็นพาหนะของคนร้ายกลุ่มที่เปิดฉากยิงกราดผู้คนในร้านอาหารและบาร์หลายแห่งเมื่อคืนวันศุกร์ (13) ตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผย ขณะที่สื่อมวลชนฝรั่งเศสอ้างแหล่งข่าวด้านยุติธรรมหลายรายกล่าวว่า ได้พบปืน เอเค 47 (ปืนอาก้า) จำนวนมากในรถคนนี้
เรื่องนี้ดูจะเป็นการยืนยันทฤษฎีที่ว่าคนร้ายบางคนสามารถหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุภายหลังก่อการโจมตีแล้ว ฮิว สโคฟิลด์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซีรายงานจากปารีส
เขากล่าวต่อไปว่า คนร้ายเหล่านี้น่าจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์อีกคันหนึ่ง แล้วขับขึ้นเหนือมุ่งสู่เบลเยียม
เมื่อวันเสาร์ (14) นั้นมีชาย 5 คนถูกจับกุมในเบลเยียม ที่เมืองโมเลบีค ใกล้ๆ กับกรุงบรัสเซลส์ เนื่องจากเกี่ยวข้องพัวพันกับการโจมตีในปารีส นายกเทศมนตรีเมืองโมเลนบีค บอกกับทีวีเบลเยียม
ขณะที่นายกรัฐมนตรี ชาร์ลส์ มิเชล ของเบลเยียม ก็กล่าวว่า พวกที่ถูกจับกุมนี้มีอย่างน้อยคนหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่าอยู่ในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ (13)
มีรายงานด้วยว่า ได้พบรถยนต์โฟล์คสวาเกน โปโล ติดป้ายทะเบียนเบลเยียม ถูกทิ้งเอาไว้ใกล้ๆ กับหอแสดงคอนเสิร์ตบาตาแคลน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้ถูกสังหารเกือบ 90 คน
หัวหน้าอัยการปารีส ฟรองซัวส์ โมแลงส์ กล่าวว่า รถยนต์โฟล์ค โปโล คันดังกล่าว เช่ามาโดยบุคคลสัญชาติฝรั่งเศสผู้หนึ่งซึ่งพำนักอาศัยอยู่ในเบลเยียม
“จากการสืบสวนสอบสวนในชั้นนี้ เราสามารถพูดได้ว่า น่าจะมีทีมผู้ก่อการร้าย 3 ทีมที่ทำงานประสานกัน อยู่เบื้องหลังพฤติการณ์โหดเหี้ยมป่าเถื่อนคราวนี้” โมแลงส์ บอก
“เราจะต้องสืบหาต่อไปว่าคนเหล่านี้มาจากไหน ... และพวกเขาได้รับการสนับสนุนทางการเงินด้วยวิธีใด”
เจ้าหน้าที่ยังพบหนังสือเดินทางของซีเรียฉบับหนึ่ง ใกล้ๆ กับร่างของคนร้ายผู้หนึ่งซึ่งเข้าโจมตีสนามกีฬาสตั๊ต เดอ ฟรองซ์ พาสปอร์ตดังกล่าวถูกใช้ในการเดินทางผ่านเกาะเลรอส ของกรีซเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของกรีซยืนยันแล้ว
เซอร์เบียก็ระบุว่า ผู้ถือพาสปอร์ตเล่มนั้นยังได้เข้ามายังประเทศตนจากพรมแดนด้านมาซีโดเนีย และได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่ศูนย์ลงทะเบียนแห่งหนึ่งของเซอร์เบีย
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยังไม่มีความเชื่อมโยงโดยตรงใดๆ ระหว่างผู้ถือหนังสือเดินทางเล่มนี้กับพวกคนร้ายโจมตีปารีส