เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - ผู้นำเติร์กเมนิสถาน ดินแดนซึ่งมั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรพลังงานแห่งภูมิภาคเอเชียกลาง สั่งการในวันเสาร์ (7 พ.ย.) ให้เริ่มเดินหน้าการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อรองรับการส่งออกก๊าซ จากอดีตดินแดนส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตแห่งนี้ไปยังอินเดีย ปากีสถาน และอัฟกานิสถาน
รายงานล่าสุดซึ่งอ้างสื่อที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลเติร์กเมนิสถานระบุว่า ประธานาธิบดีกูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ ผู้นำเติร์กเมนิสถาน ออกคำสั่งด่วนให้บรรษัทพลังงานของรัฐอย่าง “เติร์กเมนก๊าซ ” และ “เติร์กเมนก๊าซเนฟต์สตรอย” เริ่มเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งเพื่อรองรับการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากเติร์กเมนิสถาน ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียใต้ทั้งอินเดีย ปากีสถาน ตลอดจน อัฟกานิสถาน
รายงานระบุว่า แนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติดังกล่าวนี้จะมีความยาวโดยรวมมากกว่า 1,800 กิโลเมตร และคาดว่า โครงการก่อสร้างทั้งหมดจะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 358,550 ล้านบาท)
สื่อในความควบคุมของรัฐบาลเติร์กเมนิสถานระบุว่า โครงการก่อสร้างท่อส่งซึ่งสามารถรองรับการส่งออกก๊าซธรรมชาติได้ “ปีละกว่า 33,000 ล้านลูกบาศก์เมตร” นี้จะสามารถเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในช่วงสิ้นปี ค.ศ. 2018 และจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นของยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจแห่งเอเชียอย่างอินเดีย รวมถึงปากีสถานได้อย่างสำคัญ
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวระบุว่า โครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ที่ใช้ชื่อว่า The Turkmenistan-Afghanistan-Pakistan-India (TAPI) นี้ยังจะช่วยลดทอนผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เติร์กเมนิสถานกำลังเผชิญอยู่ จากผลพวงของราคาพลังงานที่ตกต่ำในตลาดโลก และการที่แต่เดิม เติร์กเมนิสถานต้องคอยหวังพึ่งพาแต่ “คำสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากจีน” เป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี โครงการเมกะโปรเจกต์นี้ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนโดยเฉพาะการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติช่วงที่ต้องพาดผ่านประเทศอัฟกานิสถานที่ยังคุกรุ่นไปด้วยไฟสงคราม และภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งอย่างกลุ่มตอลิบาน ขณะเดียวกัน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันแต่อย่างใดว่ามีหุ้นส่วนต่างชาติร่วมลงขันหรือสนับสนุนโครงการก่อสร้างมูลค่านับแสนล้านนี้ด้วยหรือไม่