เอเอฟพี - รัฐบาลเวเนซุเอลาขอถอนเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อีก 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการถอนครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังปริมาณเงินคงคลังของรัฐบาลร่อยหรอลงเรื่อยๆ จากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและราคาน้ำมันตกต่ำ
ข้อมูลบนเว็บไซต์ไอเอ็มเอฟเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ย.) ระบุว่า กรุงการากัสขอแลกเปลี่ยนสิทธิพิเศษถอนเงิน (Special Drawing Rights - SDRs) ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศที่ไอเอ็มเอฟกำหนดขึ้น เพื่อแลกกับเงินสดสกุลดอลลาร์สหรัฐ
ไอเอ็มเอฟอธิบายว่า รัฐบาลบางประเทศนำเงินสดมาซื้อเอสดีอาร์เพื่อรักษาพันธกรณีต่อกองทุน แต่ในบางครั้งก็อาจ “ขายทิ้ง” เพื่อเพิ่มเงินคงคลังในประเทศได้
เวเนซุเอลาพึ่งพาการส่งออกน้ำมันเป็นหลัก จึงได้รับผลกระทบรุนแรงเป็นพิเศษจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ สกุลเงินแข็งสำรองลดลงถึง 25% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เหลือเพียงราวๆ 15,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเทขายเอสดีอาร์ถึง 3 ครั้งในปีนี้ ทำให้เวเนซุเอลาได้เงินสดกลับคืนไปกว่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รัฐบาลเวเนซุเอลาไม่เคยถอนเอสดีอาร์ออกจากไอเอ็มเอฟมาก่อนตั้งแต่ปี 2006 จนกระทั่งมาเจอวิกฤตหนักหน่วงในปีนี้
ค่าเอสดีอาร์ถูกกำหนดโดยระบบตะกร้าเงิน 4 สกุลใหญ่ ได้แก่ เยนญี่ปุ่น, ดอลลาร์สหรัฐ, ปอนด์สเตอร์ลิง และยูโร
ไอเอ็มเอฟไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์ของเวเนซุเอลามาตั้งแต่ปี 2006 เนื่องจากรัฐบาลการากัสไม่ยินยอมให้ผู้แทนไอเอ็มเอฟเข้าตรวจสอบ
ปัญหาเศรษฐกิจซบเซา การขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐาน และภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ในขณะที่ศึกเลือกตั้งรัฐสภาครั้งใหม่กำลังจะมาถึงในวันที่ 6 ธ.ค.