เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วง 3 วันติดในวันศุกร์ (6 พ.ย.) ส่วนทองคำขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน หลังข้อมูลการจ้างงานอันสดใสของสหรัฐฯดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตัวเลขดังกล่าวดันวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ ด้วยมีความกังวลต่อความเป็นไปได้มากขึ้นที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 91 เซ็นต์ ปิดที่ 44.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 56 เซ็นต์ ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสหรัฐฯเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายในเดือนตุลาคม ด้วยพบว่าเศรษฐกิจของประเทศสามารถสร้างงานใหม่ได้ถึง 271,000 อัตรา มากกว่าเดือนกันยายนถึงเกือบ 2 เท่า ส่วนอัตราคนว่างงานก็ลดลงสู่ 5.0 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลดังกล่าวกระพือความคาดหมายมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยูโร และ 1.12 เปอร์เซ็นต์หากเทียบกับสกุลเงินเยน ส่งผลให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตามหลังข้อมูลการจ้างงานอันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ยังฉุดให้ทองคำขยับลงแรงในวันศุกร์ (6 พ.ย.) นับเป็นการปิดลบ 7 วันติดและแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 16.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,087.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (6 พ.ย.) ปิดในกรอบแคบๆ หลังข้อมูลภาคแรงงานอันแข็งแกร่งในเดือนตุลาคม เพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.90 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.910.33 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.73 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,099.20 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.38 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,147.12 จุด
นักวิเคราะห์หลายคนคาดหมายว่าเฟดจะเคลื่อนไหวขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม หลังจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานเผยให้เห็นว่ามีการจ้างงานใหม่เกินคาดหมายในเดือนตุลาคม และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนบางส่วนเทขายหุ้นออกมา