xs
xsm
sm
md
lg

คณะมนตรีความมั่นคง UN ลงมติหนุนการสอบสวนเหตุละเมิดสิทธิปชช. ในวิกฤตการเมืองบุรุนดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการตัดสินใจขององค์การเอกภาพแอฟริกัน (เอยู) ในการเปิดกระบวนการสืบสวนเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศบุรุนดี พร้อมให้คำมั่นจะตอบโต้ทุกการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการคุกคามสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในดินแดนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายในภูมิภาคแอฟริกาตอนกลางแห่งนี้

รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างคำแถลงที่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้ง 15 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันพุธ ( 28 ต.ค.) ระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงขอประณามเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เพิ่มสูงขึ้น และ การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของเหตุรุนแรงในประเทศบุรุนดี ซึ่งรวมถึง การเข่นฆ่าประชาชน การทรมาน ที่อยู่นอกเหนือบทบัญญัติแห่งกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตลอดจน การกักขังควบคุมตัวประชาชนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

การตัดสินใจเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาของประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นคูรูนซิซา ในการขยายระยะเวลาครองอำนาจของตัวเองเข้าสู่สมัยที่ 3 ได้จุดกระแสแห่งความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชาวบุรุนดี และเป็นต้นเหตุให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลกับกลุ่มผู้ประท้วง จนมีผู้เสียชีวิตและถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก นำมาซึ่งภาวะของความไม่แน่นอนและความหวาดกลัวที่ส่งผลให้ชาวบุรุนดีมากกว่า 200,000 ราย ต้องอพยพหนีตายออกนอกประเทศ

ขณะที่แม็ทธิว ไรครอฟต์ เอกอัครราชทูตของสหราชอาณาจักรประจำองค์การสหประชาชาติ ต้องออกโรงเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงภัยคุกคามจาก “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหม่” ในประเทศบุรุนดี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล คือ พรรคสภาแห่งชาติเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย ได้ประกาศว่า ประธานาธิบดีเอ็นคูรูนซิซา จะลงสมัครรับเลือกตั้งต่อเป็นสมัยที่ 3 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีบุรุนดีในปีนี้ ทั้งที่การกระทำดังกล่าวขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญของประเทศ เป็นเหตุให้เกิดการต่อต้านเป็นวงกว้างจากประชาชน และนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่ภาวะสงครามกลางเมืองที่สิ้นสุดไปเมื่อปี 2005