เอเจนซีส์ – อิสราเอลและปาเลสไตน์ยังไม่สงบต่อเนื่องเมื่อ ฮัฟตอม ซาร์ฮูม( Haftom Zarhum )ผู้อพยพชายชาวเอริเทรียนวัย 29 ปีถูกเข้าใจผิดเป็นคนร้ายปาเลสไตน์ก่อเหตุใช้มีดไล่แทงและกราดยิงบริเวณสถานีรถบัสในเมืองเบียร์เชบา (Beersheba) ทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวานนี้(18) และทำให้ตำรวจอิสราเอลลั่นไกสังหารผู้อพยพรายนี้ที่ในขณะนั้นยืนอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่เขาจะถูกฝูงชนชาวยิวที่โกรธแค้นรุมประชาทัณฑ์ และทำให้เหยื่อความรุนแรงรายนี้เสียชีวิต
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวันนี้(19)ว่า เกิดเหตุโจมตีรอบใหม่ในเมืองเบียร์เชบา (Beersheba) ทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวานนี้(18)เมื่อมือปืนชาวปาเลสไตน์ใช้ปืนไรเฟิล M-16 สังหารทหารกองทัพอิสราเอล IDF เสียชีวิต 1 นาย และทำให้ชาวอิสราเอลที่อยู่ในบริเวณสถานีรถบัส บาดเจ็บอีก 10 คน
สื่อกาตาร์รายงานต่อว่า มือปืนชาวปาเลสไตน์ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ในขณะที่ตำรวจอิสราเอลได้ยิงฮัฟตอม ซาร์ฮูม( Haftom Zarhum )ผู้เคราะห์ร้าย ผู้อพยพชายชาวเอริเทรียนวัย 29 ปีที่ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุเสียชีวิตเพราะคิดว่าเป็นมือปืนปาเลสไตน์ที่ก่อเหตุกราดยิงรายที่ 2
โดยในภาพวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์แสดงให้เห็นซาร์ฮูมถูกฝูงประชาชนชาวยิวที่โกรธแค้นรุมทำร้าย ก่อนที่ชายวัย 29 ปีจะเสียชีวิตภายหลังในโรงพยาบาล
และในวิดีโอคลิปยังปรากฏภาพทหาร IDF คนหนึ่งใช้เท้าเตะไปที่ศรีษะของซาร์ฮูมในขณะที่นอนจมกองเลือดบนถนน ในขณะที่อีกคนได้ยกม้านั่งยาวขึ้นและทุ่มลงไปบนศรีษะของชายผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ แต่มีชายอีกคนใช้เก้าอี้สูงคร่อมร่างของซาร์ฮูมไว้
ด้านโฆษกตำรวจอิสราเอล มิกกี โรเซนเฟลด์ (Micky Rosenfeld)ออกแถลงการณ์ยืนยันกับอัลญะซีเราะฮ์ว่า “ซาร์ฮูมถูกสำคัญผิดว่าเป็นคนร้ายจริง”
“ชายผู้เคราะห์ร้ายถูกประชาชนชาวอิสราเอลที่อยู่ในบริเวณนั้นรุมทำร้ายจริง ซึ่งทางเรากำลังรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเพื่อสอบหาความจริงต่อไป” โรเซนเฟลด์แถลง
นอกจากนี้โฆษกตำรวจอิสราเอลยังแถลงเพิ่มเติมว่า “คนร้ายชาวปาเลสไตน์ใช้มีดแทงทหาร IDF 1 นายและได้ขโมยปืนไรเฟิล M-16 อาวุธประจำตัวไป และได้เปิดฉากยิงที่สถานีรถบัส ในขณะที่เหยื่อทหาร IDF เสียชีวิตในโรงพยาบาล
และหลังจากเกิดเหตุตำรวจอิสราเอลแถลงถึงรายระเอียดคนร้ายชาวปาเลสไตน์ว่า คือ มูแฮนด์ อาลูคาบี ( Muhand Alukabi) วัย 21 ปี ชาวเมืองฮูรา ( Hura) ในเนเกฟ( Negev)
ด้านกลุ่มฮามาสที่ปกครองกาซาได้กล่าวถึงเหตุความรุนแรงล่าสุดว่า “เป็นการเอาคืน” ส่วนกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อื่นๆชี้ว่า “เป็นคำตอบให้กับการก่ออาชญากรรมของอิสราเอล”
อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า เหตุโจมตีล่าสุดทำให้ตัวเลขรวมเสียชีวิตจากความไม่สงบนี้อยู่ที่ 52 คน เป็นชาวปาเลสไตน์ 44 คนและชาวอิสราเอล 8 คน
ด้านสหรัฐฯจะส่งรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รีย์บินด่วนเพื่อไปพบปะกับผู้นำปาเลสไตน์และผู้นำอิสราเอลในเวลานี้เพื่อหาทางออกเหตุความขัดแย้งรอบใหม่ของทั้งสองชาติที่ปะทุมานานไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์
แต่ทว่าในความพยายามของนานาชาติ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ปฎิเสธข้อเสนอผรั่งเศสในการที่จะส่งผู้สังเกตการณ์นานาชาติไปยังมัสยิดอัล-อัคซา( Al-Aqsa) สถานศักดิ์สิทธิ์สำคัญอันดับ 3 ของศาสนาอิสลามเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง และตั้งอยู่ในเขตเยรูซาเล็มตะวันออกที่อิสราเอลปกครองอยู่
โดยชาวปาเลสไตน์ต่างเกรงว่า อิสราเอลจะจำกัด หรือถึงขั้นห้ามชาวมุสลิมเข้าไปยังมัสยิดที่ศักดิสิทธิแห่งนี้ และยังเกรงไปถึงความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะทำลายสถานศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนาของชาวมุสลิม
และตั้งแต่นั้นมา ตำรวจปราบจลาจลอิสราเอลปะทะอย่างหนักกับผู้ประท้วงปาเลสไตน์ โดยใช้ทั้งระเบิดแก๊สน้ำตา ระเบิดแสง กระสุนเหล็กที่หุ้มด้วยยาง ไปจนถึงขั้นใช้กระสุนจริง
นอกจากนี้รัฐบาลอิสราเอลได้สั่งให้มีการตั้งจุดตรวจทั่วเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งมีคนร้ายปาเลสไตน์บางส่วนมาจากที่นี่ นอกเหนือจากนี้เมื่อวานนี้(18)ทหารอิสราเอล 300 นายได้ปฎิบัติงานร่วมตำรวจในพื้นที่รักษาความปลอดภัย
